เช้าวันจันทร์นี้ ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงกว่า 200 จุด จากระดับสุงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่ง จากแรงขายดอลลาร์ออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกันในสัปดาห์นี้ โดยก่อนหน้านี้นักลงทุนได้เข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
ถ้อยแถลงของ นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า เขากำลังจับตาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่จะมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเขาอาจปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับนโยบายของเขา หากเศรษฐกิจมีการชะลอตัวลงอย่างมาก
.
ในด้านของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 225.96 จุด หรือ +0.65%, ดัชนี S&P500 ปิด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด หรือ +0.81% และดัชนี Nasdaq ปิด เพิ่มขึ้น 172.88 จุด หรือ +1.19% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น
.
ปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์ร่วงอีกอย่างคือ ราคาบิตคอยที่พุ่งขึ้นใกล้แตะแนวต้านทางเทคนิคที่ระดับ 50,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ แม้มีข่าวว่า สภาคองเกรสสหรัฐเตรียมออกกฎหมายควบคุมการซื้อขายบิตคอยน์
.
ถ้อยแถลงของนายกฯอังกฤษส่งสัญญาณพร้อมร่วมมือกับตาลีบัน นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษจะทำงานร่วมกับกลุ่มตาลีบัน หากมีความจำเป็น หลังจากที่กองกำลังตาลีบันสามารถยึดครองอัฟกานิสถาน กดดันดัชนีดอลลาร์
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง หลังจาก DXY พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 93.729 ได้ร่วงลงมาเช้านี้ที่ระดับ 93.308 ณ เวลาที่เขียน แต่ก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น(Uptrend) อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านเดิมที่ระดับ 93.522 ได้ ก็มีโอกาสลงไปเทสแนวรับที่ระดับ 93.253 และ 93.030 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 93.522 / 93.729
แนวรับสำคัญ : 93.253 / 93.030
.