ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.56% แตะระดับที่ 92.971 หลัง PMI ภาคการผลิต-บริการของสหรัฐชะลอตัวในเดือนส.ค. กระตุ้นคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่เร่งปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ยิ่งกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงและกระตุ้นแรงเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย
.
แหล่งข่าวจาก Markit เผยตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 61.2 ในเดือนส.ค. จากระดับ 63.4 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 62.5 และในด้านดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 55.2 ในเดือนส.ค. จากระดับ 59.9 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 59.5
.
ในส่วนของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.ค. หรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 5.99 ล้านยูนิต ซึ่งอยู่เหนือระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.83 ล้านยูนิต
.
ข้อมูลจากตลาดหุ้นสหรัฐฯเผย ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 215.63 จุด หรือ +0.61% ดัชนี S&P500 ปิด +0.85% ดัชนี Nasdaq ปิด +1.55% ขานรับ FDA ไฟเขียวใช้วัคซีนไฟเซอร์เต็มรูปแบบ
.
อย่างไรก็ตาม วันนี้รอติดตามตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะส่งอย่างไรกับดัชนีดอลลาร์
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงต่อแตะระดับที่ 92.971 ก่อนจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 92.995 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม หากสามารถทะลุแนวรับที่ระดับ 92.944 ได้ ก็มีแนวโน้มจะลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ระดับ 92.809
แนวต้านสำคัญ : 93.267 / 93.495
แนวรับสำคัญ : 92.944 / 92.809
.