หน่วยงานการเงินญี่ปุ่น (FSA) วางแผนยกระดับความเข้มงวดกฎหมาย Cryptocurrency ในประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งปกป้องนักลงทุน หลังเหตุการณ์แฮกแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Liquid เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมองว่าผู้ให้บริการยังไม่มีมาตรการป้องกันการฟอกเงินและป้องกันความผันผวนของราคาอย่างเพียงพอ
จากรายงานของ Jiji Press วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ได้รายงานว่าทาง Financial Services Agency (FSA) ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องของการยกระดับความเข้มงวดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency เพื่อที่จะได้สามารถปกป้องนักลงทุนให้ได้มากยิ่งขึ้นค่ะ
ซึ่งในเดือนที่แล้ว ทางรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการเปิดตัวหน่วยเฉพาะกิจ ที่มีหน้าที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงินดิจิทัล และ DeFi โดยเฉพาะ ท่ามกลางการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของ Cryptocurrency และ CBDC (สกุลเงินดิจิทัลโดยธนาคารกลาง)
โดยทางหน่วยงานมีแผนที่จะแทนที่ด้วยกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงกลางปี 2565 นี้ค่ะโดยทาง FSA หวังว่ามันจะเป็นการเพิ่มเสถียรภาพให้กับตลาด Cryptocurrency และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายให้กับระบบนิเวศจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้วย
โดยก่อนหน้านี้ทาง FSA ก็เคยได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย Crypto ในลักษณะคล้ายกันมาก่อนหน้าแล้วในปี 2562 ที่มีจุดประสงค์ในการป้องกันสินทรัพย์ของนักลงทุน สืบเนื่องจากเหตุการณ์แฮกแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Bitpoint ในญี่ปุ่น สร้างความเสียหายไปกว่า 32 ล้านดอลลาร์
และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ก็มีเหตุการณ์แฮกแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Liquid ในญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ภาครัฐมองว่ายังมีกฎหมายเข้ามารองรับไม่เพียงพอ รวมถึงยังมองว่าผู้ให้บริการในประเทศยังไม่มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และมาตรการป้องกันความผันผวนของราคาอย่างเพียงพออีกด้วยค่ะ