เหรียญยอดฮิตอย่าง Ripple ล่าสุดได้ยื่นคำร้องเพื่อบังคับให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยนโยบายและข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานที่ซื้อขาย crypto แบบบุคคลเช่น Bitcoin, Ethereum และ XRP ค่ะ และการยื่นคำร้องนี้ดูเหมือนว่าจะช่วยสร้างความได้เปรียบในคดีความฟ้องร้อง ที่เหรียญ Ripple เป็นจำเลย ขณะนี้ค่ะ
ต้องขอย้อนไปก่อนหน้านี้ที่เหรียญ XRP ถูกฟ้องจากรอบด้าน ในข้อหาที่พวกเขาทำการขายเหรียญ XRP ที่มีลักษณะเป็นหลักทรัพย์โดยผิดกฎหมายนั่นเองค่ะ
โดยการยื่นคำร้องของ Ripple ถูกอ้างอิงจากจดหมายที่ทนายความ James K. Filan ยื่นนั้น เผยว่า Ripple ต้องการให้ SEC จัดหาเอกสารดังนี้
"เอกสารที่ไม่ระบุตัวตนซึ่งสะท้อนการตัดสินใจก่อนการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับ XRP, bitcoin และ ether โดยข้อมูลเหล่านั้นจะต้องถูกนำมารวบรวมกันไว้ ให้อยู่ในรูปแบบเอกสาร”
นอกจากนี้ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการถือครอง XRP ของพนักงาน ก.ล.ต. ยังถูกกล่าวถึงในการยื่นคำร้องครั้งนี้อีกด้วย
“ทางจำเลยอย่าง Ripple ยังขอใบรับรองเกี่ยวกับการถือครอง XRP ของพนักงาน ก.ล.ต. อีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือในรูปแบบรวม ได้พบและหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. ในประเด็นนี้เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม, 15 กรกฎาคม, 18 สิงหาคม, และ 25 สิงหาคม แต่ยังไม่มีความคืบหน้า”
คำขอก่อนหน้านี้ของ Ripple ดูเหมือนว่าจะต้องพบกับ
“การปฏิเสธของ SEC ในการให้ข้อมูลบางอย่าง” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อความเข้าใจของจำเลย เกี่ยวกับนโยบายของ SEC เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และ SEC อนุญาตให้พนักงานของตนเองแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเป็นปัญหาการขึ้นศาลอย่าง XRP หรือไม่
เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ศาลได้อนุญาตให้ Ripple บังคับให้ SEC จัดทำนโยบายการซื้อขายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนโพสต์ที่ ก.ล.ต. ออกนโยบายลงวันที่ 19 มกราคม 2561 เรื่อง “แนวทางจริยธรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล” ทาง Ripple ชี้ให้เห็นว่าจนถึงวันที่ 19 มกราคม 2018 ก.ล.ต. ไม่ได้มองว่าสิน XRP เป็นหลักทรัพย์และพนักงานของบริษัท “มีอิสระในการซื้อ, ขาย และถือ XRP โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ จาก SEC”
ในขณะที่ Ripple และ ก.ล.ต. ดำเนินการต่อไป ชุมชน crypto กำลังรอวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นเส้นตายการค้นพบข้อเท็จจริง นอกจากนี้ศาลได้อนุมัติคำขอร่วมของฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการผลักดันคำให้การของ CEO และผู้ก่อตั้ง Ripple, Brad Garlinghouse และ Chris Larsen การพิจารณาคดีจึงดูเหมือนจะยังห่างไกลจากข้อสรุปค่ะ