เมื่อเราพูดถึง bitcoin แม้ว่าความผันผวนของมันจะเหวี่ยงแรงมากใช่ไหมค่ะ แต่ bitcoin ก็กำลังเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ราคาของมันได้พุ่งทะลุ 50,000 ดอลลาร์ไปอีกครั้ง และราคาของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 280% จากปีที่แล้ว ค่ะ
Bitcoin, blockchain และ crypto ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่เติบโตเร็วที่สุดในวงการเทคโนโลยี ซึ่งเห็นได้จากบริษัทร่วมทุน Andreeson Horowitz ที่ออกมาสร้างกองทุนคริปโตมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียวค่ะ
ทาง Balaji Srinivasan ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของ Andreeson Horowitz หรือ CTO คนแรกของ Coinbase เขียนบทความเรื่อง “The Billionaire Flippening” ซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบทางสังคมเชิงโครงสร้าง ของราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่าง bitcoin
เมื่อมีผู้คนได้เข้ามาลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เราจะได้ยินคำว่า “Flippening” คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องของการที่มูลค่าตลาดของ Ethereum แซงหน้าของ Bitcoin ใช่ไหมค่ะ
อย่างไรก็ตาม
สำหรับ Balaji Srinivasan ดูเหมือนว่ายังมีอีกเหตุการณ์ flippening ที่น่าสนใจมากกว่า ซึ่งนั่นก็คือการที่คนถือ BTC มีมูลค่าสินทรัพย์ที่เยอะกว่า มหาเศรษฐีจากยุคเก่า
เขากล่าวว่า เมื่อราคา bitcoin วิ่งไปแตะ $100,000 จะมีมหาเศรษฐี bitcoin มากพอๆ กับมหาเศรษฐีจากยุคเก่า เมื่อ bitcoin มีราคาถึงหนึ่งล้านดอลลาร์ (30 ล้านบาท) มหาเศรษฐี bitcoin และ crypto บนโลกจะเกินจำนวนมหาเศรษฐีจากยุคเก่า เลยค่ะ
นาย Balaji ได้อธิบายมันออกมาเป็นตัวเลขตามนี้
“มี address ประมาณ 2,393 address ที่ถือเหรียญมากกว่า 1,000 BTC และหากราคามันไปถึง 1 ล้านดอลลาร์ เจ้าของ addresss ทั้งหมด 2,393 address นั้นจะกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน”
“ปัจจุบัน Bitcoin กินส่วนแบ่งตลาดประมาณ 60% ของตลาด crypto ทั้งหมด
ดังนั้น สมมติว่ามีการกระจายความมั่งคั่งที่คล้ายกันสำหรับเหรียญอื่น ๆ และสมมติว่ามูลค่าตลาดของ crypto ทั้งหมดนั้นมีมูลค่าที่เพิ่มตาม bitcoin ก็ให้เราคูณ 2393 ด้วย 1/0.6 เพื่อหาจำนวน address ของมหาเศรษฐี crypto ที่จะมีประมาณ 4000 address ปัจจุบันมีมหาเศรษฐีประมาณ 2,000 คน 4000/(4000+2000)=0.66 หมายความว่า ~66% ของมหาเศรษฐีมาจาก crypto ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากเลยค่ะ
นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งนามว่า Jacob Kozhipatt
ได้ทำการคำนวณเพิ่มด้วยแคลคูลัส โดยนำเอาค่า CAGR (Compounded Annual Growth) ของ bitcoin ที่ 200% มาคำนวณด้วย หมายความว่ามีเหตุผลที่จะคิดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้า เศรษฐีพันล้านคนครึ่งของโลก จะสร้างรายได้มหาศาลจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล (เมื่อหนึ่ง bitcoin เท่ากับ 1 แสนดอลลาร์) และภายใน 5 ปี (เมื่อหนึ่ง bitcoin เท่ากับ 1 ล้านดอลลาร์) จะมีมหาเศรษฐี bitcoin/crypto มากกว่าจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ รวมกัน!
สิ่งนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในความมั่งคั่งนับตั้งแต่การเกิดขึ้นของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในทศวรรษ 1980
ในยุคข้อมูลข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงนั้นคงที่ และใครก็ตามที่คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างถูกต้องก็จะได้รับรางวัลอย่างงดงาม แม้ว่าอนาคตของ Bitcoin จะไม่แน่นอน แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในยุคของเรา การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกรรมทางการเงิน, การเข้าสังคม และการจัดโครงสร้างของสังคม ดังนั้นสำหรับพวกเราทุกคน อยากจะบอกให้ทำการ HODL เหรียญของเราไว้ มหาเศรษฐีในอนาคตส่วนใหญ่ของโลกทำแบบนั้นค่ะ