ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) เทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก รีบาวด์ใกล้ 93.00 ที่ 92.403 และปิดตลาดด้วยการอ่อนค่าลง -0.06% ในขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมาที่ -5.3 ในเดือนสิงหาคม ลดลงจาก -4.4 ในเดือนก่อนหน้า และผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 18.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 1987 

.

ขณะที่ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) Klass Knot ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจเริ่มลดขั้นตอนของโครงการจัดซื้อฉุกเฉินสำหรับโรคระบาด (PEPP) ตามที่รายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์

.

นักลงทุนหันความสนใจไปที่ข้อมูลการขายปลีกในเยอรมนี การจ้างงาน ADP ของสหรัฐอเมริกา และข้อมูล ISM Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI) เพื่อใช้ข้อมูลเชิงลึกในการคากการณ์ทิศทางราคา

.

การอ่อนค่าของเงินยูโรจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ของวันอังคารที่ 1.1847 บ่งชี้ว่าการขยับขึ้นล่าสุดจากจุดต่ำสุดของเดือนสิงหาคมที่ 1.1664 เป็นไปได้ว่าอาจทำ EUR/USD ขึ้นไปทำระดับสูงสุดใหม่ได้ แต่ตลาดก็มีอคติด้านลบที่มาฉุดรั้งการเคลื่อนที่ครั้งนี้ทำให้ราคาร่วงลง และถ้าราคาลงมาต่ำกว่า 1.1784 จะเพิ่มความเชื่อถือให้กับมุมมองขาลง และราคาก็จะมุ่งหน้ากลับไปที่ 1.1735 

ในทางกลับกัน หากราคาอยู่เหนือกว่า 1.1847 จะช่วยหึ้นยืนยันสถานะขาขึ้นต่อไปได้ แต่การสูญเสียโมเมนตัมขาขึ้นจะทำให้ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.1885/90 และผลตอบแทนลดลง