ในมาตรการที่จีนคุมเข้มครั้งนี้ ได้ลามไปกระทบกับธุรกิจอื่น ๆ
สิ่งที่น่าสนใจ ในรายงานนี้คือ เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่จีนได้ประกาศกฎหมายห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมส์เกิน 3 ชั่วโมง/ สัปดาห์ ซึ่งทางการจีนได้กล่าวว่า "การที่ต้องมีการกระชับมาตรการนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนใช้เวลาไม่เป็นประโยชน์ หลังถูกสื่อจีนเปรียบเทียบเกมเหมือนกับฝิ่น"
ยังส่งผลกับธุรกิจติวเตอร์ ที่รัฐบาลจีนเพิ่งวางมาตรการคุมเข้มธุรกิจติวเตอร์ โดยบรรดาโรงเรียนกวดวิชาต่างๆ จะต้องเปลี่ยนมาเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หลังจากที่ประเทศจีนเกิดโรงเรียนกวดวิชาเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นขุมทรัพย์ใหม่ ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนต้องเข้ามาจัดการในที่สุด
ล่าสุด หุ้นของบริษัท Tencent Holdings Ltd (0700.HK) ร่วงลงถึง 3% ในอาทิตย์ที่แล้ว
โดยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา นักลงทุนคาดหวังว่าจะได้เห็นผลกระทบประมาณ 3% ต่อรายได้ของบริษัท Tencent จากการประกาศกระชับมาตรการที่เข้มงวดนี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะมากถึง 60% ของรายได้ทั้งหมด และยังคาดการณ์ไว้อีกว่าบริษัทคู่แข่งอย่าง NetEase ก็คงได้รับผลกระทบเช่นกัน
Tencent คือบริษัทไอทีอันดับ 1 ของจีน ก่อตั้งเมื่อพฤศจิกายน 1998 ซึ่งให้บริการเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน และเกมออนไลน์
Mio Kato กล่าวว่า
“ปัญหาที่แท้จริงนั้นไม่ใช่ผลกระทบที่มีต่อรายได้ของบริษัท แต่เป็นการทำลายพฤติกรรมและแก้ไขปัญหาการติดเกมส์ของเยาวชน”
หุ้นของบริษัท Krafton Inc (259960.KS) ซึ่งเป็นบริษัทเกมส์สัญชาติเกาหลี ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent ได้ร่วงลงไปถึง 3.5%
อีกทั้ง หุ้นของบริษัท Tokyo-listed Nexon (3659.T) และ Koei Tecmo (3635.T) ซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นจีน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยร่วงไป 4% และ 3% ตามลำดับค่ะ