ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.30% แตะที่ 90.8197 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.18 เยน จากระดับ 104.22 เยน, ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8870 ฟรังก์ จากระดับ 0.8898 ฟรังก์ และดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2744 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2819 ดอลลาร์แคนา
ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2133 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2073 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.7527 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7436 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3290 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3394 ดอลลาร์
ยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจาก ECB ประกาศในวันพฤหัสบดีว่า ECB ตัดสินใจที่จะขยายโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นวงเงินอีก 5 แสนล้านยูโร และขยายเวลาโครงการดังกล่าวไปจนถึงอย่างน้อยสิ้นเดือนมี.ค. 2565 อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและขยายโครงการซื้อพันธบัตรในการประชุมวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50%
ขณะเดียวกัน ECB มีมติขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) เพิ่มอีก 5 แสนล้านยูโร เป็น 1.85 ล้านล้านยูโร รวมทั้งขยายเวลาในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ PEPP จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนมิ.ย.2564 ออกไปจนถึงเดือนมี.ค. 2565 หรือจนกระทั่ง ECB พิจารณาว่าวิกฤตการณ์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
นอกจากนี้ ECB ย้ำว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดย ECB จะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือน และ ECB จะดำเนินโครงการ QE เป็นระยะเวลานานเท่าที่มีความจำเป็น