ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.20% แตะที่ 92.474 เมื่อคืนนี้ ก่อนจะรีบาวน์ขึ้นมาที่ระดับ 92.610 ณ เวลที่เขียน หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่แย่เกินคาดในวันอังคารที่ผ่านมา ได้บั่นทอนการคาดการณ์เกี่ยวกับการลด QE ของเฟด แม้การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ “ดีเกินคาด” ช่วยสกัดช่วงติดลบของดอลลาร์
.
โดยในทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นสู่ระดับ 34.3 ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 18.0 จากระดับ 18.3 ในเดือนส.ค. หนุนให้ด้านของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.319% โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.26% ซึ่งลงไปทดสอบหลังข้อมูลเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้ออาจแตะระดับสูงสุดแล้ว
.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด
.
ข้อมูลจาก "Stock Trader's Almanac" ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2493 เดือนก.ย.เป็นเดือนที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดของปี และนับตั้งแต่ปี 2488 ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเฉลี่ย 0.56% ในเดือนก.ย. ขณะที่เดือนก.พ.เป็นอีกหนึ่งเดือนที่ดัชนี S&P 500 มักปรับตัวลง
.
.