ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางวิกฤตพายุที่ส่งผลให้อุปทานทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว 

.
โดยในด้านน้ำมันดิบเบรนต์ร่วงลง 12 เซนต์หรือ 0.2% สู่ 75.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายในเวลา 0649 GMT หลังจากขึ้น 2.5% ในวันก่อน และราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐร่วงลง 14 เซนต์หรือ 0.2% ที่ 72.47 ดอลลาร์หลังจากพุ่งขึ้น 3.1% ในวันพุธ

.

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงของสหรัฐฯลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากโรงกลั่นในภูมิภาคอ่าวสหรัฐและโรงงานผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งยังคงฟื้นตัวจากพายุเฮอริเคนไอดา โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก 
.

สต็อกน้ำมันดิบลดลง 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ 10 กันยายนเป็น 417.4 ล้านบาร์เรล EIA กล่าวเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ในการสำรวจของรอยเตอร์สำหรับการลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล

.

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก ANZ Research กล่าวในหมายเหตุเมื่อวันพฤหัสบดี “ข้อมูลดังกล่าวเป็นไปตามคำเตือนจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศว่าอุปทานจะลดลงจากพายุในอ่าวเม็กซิโกจะผลกำไรจากโอเปกลดลง” โดยพายุส่งผลให้อุปทานทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน แต่ตลาดเริ่มเข้าใกล้ความสมดุลในเดือนตุลาคม เนื่องจากองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตร เช่น รัสเซีย กลุ่มที่เรียกว่า OPEC+ ดำเนินการ วางแผนที่จะเพิ่มอุปทานเร็วๆนี้