ทองร่วงกว่า 1,500 จุด จาก $1,806 มาที่ $1,791 หลัง Empire State Index พุ่งเกินคาด ท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่า 0.20% แตะที่ 92.474 เมื่อคืนนี้ ขณะที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.319% โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.26%
.
โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นสู่ระดับ 34.3 ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 18.0 จากระดับ 18.3 ในเดือนส.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
.
ในส่วนปัจจัยที่หนุนราคาทองให้พุ่งขึ้น จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าลดลง 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. 
.
ถ้อยแถลงของนางลิซ แอน ซอนเดอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Charles Schwab เตือนว่าตลาดหุ้นอาจปรับฐานมากกว่า 3% หรือ 4% ในเดือนนี้
.
เมื่อวันพุธ เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยใกล้สองลูก ซึ่งถือเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่สองในรอบไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ และเป็นความพยายามเพิ่มแรงกดดันทางการทูตมายังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ
.
อย่างไรก็ดี นักยุทธศาสตร์ที่ Credit Suisse ตั้งข้อสังเกตว่าทองคำยังคงรักษาระดับเอาไว้ แต่ถูกสกัดช่วงบวกระดับสูงสุดในเดือนก.ค./ส.ค.ที่ $1,832/34  เตือนหากราคาต่ำกว่า $1,775 ดอลลาร์จะนำไปสู่การร่วงลงอีก  แต่หากทะลุ $1,834 ขึ้นไปจะช่วยให้ฟื้นตัวได้มากยิ่งขึ้น 
.
ในด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -1.75 ตัน  สู่ระดับ 998.46 ตัน  ทำให้ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลงแล้ว -172.28 ตัน
.
จับตา 19.30 วันนี้มีประกาศตัวเลขสำคัญสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลอย่างไรต่อราคาทองคำต้องติดตามกันต่อไป
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง XAU/USD ร่วงกว่า 1,500 จุด จาก $1,806 มาที่ $1,791 และได้ปรับฐานลงต่อมาที่ $1,783 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตามหากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านที่ $1,786 ได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $1,790
แนวต้านสำคัญ : 1,786 / 1,790
แนวรับสำคัญ : 1,782 / 1,780 
.