พาดหัวข่าวที่ยังคงพูดถึงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ คงจะหนีไม่พ้นปัญหาของกลุ่มบริษัท China Evergrande (HK:3333)

หลังจากที่มีคำเตือนว่าบริษัทอาจผิดนัดชำระหนี้เนื่องจากวิกฤตเงินสดที่เกิดขึ้น โดย S&P Global (NYSE) :SPGI) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “เราเชื่อว่ารัฐปักกิ่งจะเข้ามาแทรกแซงก็ต่อเมื่อความเสียหายมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในวงกว้างทำให้นักพัฒนาอสังหารายใหญ่หลายรายล้มตามกัน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจ” ค่ะ

โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนคิดเป็น 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั้งหมด ถือว่าเยอะเลยทีเดียวค่ะ และเจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังพยายามควบคุมหนี้ส่วนเกินที่เกี่ยวข้องกับการเก็งกำไรในทรัพย์สิน เนื่องจากการก่อสร้างอาคารใช้เหล็กประมาณ 1 ใน 3 ของเหล็กที่ผลิตในประเทศจีนจากแร่เหล็กที่นำเข้าจากออสเตรเลียเป็นหลัก ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำ และราคาแร่เหล็กในเดือนที่ผ่านมาเริ่มชัดเจนขึ้น

และก่อนหน้านี้ ตัวแทนจาก China Evergrande Group กล่าวว่า

"ได้เจรจาแผน กับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อชำระดอกเบี้ยที่ครบกำหนดในวันที่ 23 กันยายนนี้ ในพันธบัตรต่างประเทศ โดยไม่ชี้แจงรายละเอียดเงื่อนไขของข้อตกลง"

อันที่จริง ความสามารถของจีนในการควบคุมภัยพิบัติทางการเงินนั้นกำลังจะถูกทดสอบ และหากล้มเหลว ระบบการเงินที่มีอำนาจต่อรองสูงอาจไม่สามารถรับมือกับผลกระทบได้ โดยมีข้อมูลรายงานว่าธนาคารในยุโรป UBS และ BNP Paribas (PA) :BNPP) จะได้รับผลกระทบโดยตรงเลยค่ะ และระบบการเงินของโลกกำลังจับจ้องไปที่วิกฤตการเงินโลกครั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจฟื้นฟูจากการสูญเสีย เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม