การต่อต้าน cryptocurrency ภายในประเทศโดยรัฐบาลจีนยังคงไม่สิ้นสุดลงอย่างง่ายดาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจีนตั้งตารอที่จะฆ่าอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่นี้ทิ้งไป แต่มีความพยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมนี้อย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาได้
หลังจากเกิดข้อจำกัดมากมายในการดำเนินกิจกรรมทางการเงินและธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลภายในประเทศ ทำให้จีนได้เข้าร่วมรายชื่อประเทศที่ไม่พอใจเกี่ยวกับธุรกรรม crypto เป็นที่เรียบร้อยค่ะ
ในอีกด้านหนึ่งของโลก สหรัฐอเมริกากำลังมองเห็นโอกาสมากขึ้น หลังจากการแบน Bitcoin ของจีน การดำเนินการล่าสุดของ ก.ล.ต. เป็นคำแถลงเกี่ยวกับแผนการของผู้กำกับดูแลในการควบคุมอุตสาหกรรมคริปโต อย่างน้อยก็ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การจำกัดการใช้งานของ crypto นะคะ
หลังจากราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 1,600% สถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาเริ่มดูแลอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามา น่าจะเป็นสาเหตุของการดำเนินกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งนักลงทุนสถาบันจำนวนมากขึ้นจะสามารถเข้าสู่ตลาดมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์และรู้สึกปลอดภัยในตลาดนี้มากขึ้นค่ะ
การสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบันในสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนจะไม่เกิดกระแสเท่าการต่อต้านของประเทศจีนที่ส่งผลให้ตลาดแย่ลงหลังจากการห้ามทำเหมือง cryptocurrency ในหลายพื้นที่ในจีน แม้ว่าที่ผ่านมาตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่จะค่อนข้างสงบและมันฟื้นตัวในเวลาไม่นาน
อย่างไรก็ตามประเทศจีนไม่ได้ต้องการต่อสู้กับ Bitcoin แต่กำลังพยายามส่งเสริมวิธีการชำระเงินดิจิทัลของตนเอง เมื่อไม่มีการแข่งขันในตลาดจะทำให้หยวนดิจิทัลจะเป็นเครื่องมือเดียวสำหรับการชำระเงินในประเทศจีนค่ะ ทำให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้นั่นเองค่ะ