น้ำมันปรับตัวลงต่ำกว่า $78 หลัง OPEC+ อาจเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนเพื่อคลายกังวลด้านอุปทาน โดยราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นกระตุ้นให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเปลี่ยนจากก๊าซเป็นน้ำมันโดยในด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 5 เซนต์ ปิดที่ 74.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ภาพรวมยังอยู่ในเส้นทางที่จะทำกำไรติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่หก และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ร่วงลง 7 เซนต์หรือ 0.1% สู่ระดับ 78.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ภาพรวมยังเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน

.

การประชุมขององค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC +) ยังอยู่ในความสนใจของนักลงทุน โดยสมาชิกจะหารือกันว่าจะดำเนินการผลิตตามข้อตกลงเดิมที่  400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมหรือไม่ หากผลิตเกินกว่า 400,000 บาร์เรลต่อวัน อุปทานจะผ่อนคลายลงในระยะสั้น

.
แม้ว่าผู้ผลิตในกลุ่ม OPEC+ จะผ่อนคลายการควบคุมการผลิต แต่พวกเขายังคงระงับกำลังการผลิตหลายล้านบาร์เรลและเผชิญกับแรงกดดันจากผู้บริโภค เช่น สหรัฐอเมริกาและอินเดียให้ผลิตมากขึ้นเพื่อช่วยให้ราคาลดลง
.

ด้านสหรัฐอเมริกา ความกังวลของฝ่ายบริหารของไบเดนเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่สูงนั้นเป็นวาระการประชุมระหว่าง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง และมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย 

.

อย่างไรก็ตามราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตไฟฟ้าหันมาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือดีเซลแทน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น โดยขณะนี้ปากีสถาน บังคลาเทศ และตะวันออกกลางได้เริ่มเปลี่ยนประเภทเชื้อเพลิงที่ใช้แล้ว แต่น้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันในวันศุกร์จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในตัวเลขรายสัปดาห์เนื่องจากการผลิตฟื้นตัวจากพายุล่าสุด ซึ่งสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ ต้องติดตามกันต่อไป