การโอนเงินหากันได้อย่างสะดวก รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ผู้คนเริ่มหันมาใช้งานกันอย่างจริงจัง ซึ่งหากเทียบกับการโอนเงินผ่านธนาคารแบบเดิมแล้ว เรียกได้ว่าเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียวค่ะ ในแง่ของขีดจำกัดความสามารถในการใช้งาน
ทั้งด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ ความปลอดภัยสูง แถมยังสะดวกรวดเร็วกว่าการโอนเงินผ่านธนาคารแบบเดิมอีกด้วยค่ะ
1. XRP ( Ripple)
XRP เป็นสกุลเงินสุดฮิตอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้โอนเงินระหว่างประเทศ เป็นเหรียญที่อยู่ใน Top 10 ของตลาดคริปโต ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Ripple Labs แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของการสร้างเหรียญนี้ขึ้นมาก็เพื่อขจัดตัวกลางในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรม และลดปัญหาค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงค่ะ
ค่าธรรมเนียม: 0.25 XRP หรือประมาณ 8 บาท/ครั้ง
2. XLM (Stellar)
XLM เป็นสกุลเงินดิจิทัลบนเครือข่ายของ Stellar Network นับเป็นเหรียญอรรถประโยชน์ (Utility Tokens) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศโดยไม่แสวงหาผลกำไร ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 โดย Jed McCaleb อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple
จุดเด่นของ XLM นั้นก็คือความเร็วในการทำธุรกรรมที่ใช้เวลาเพียง 3-5 วินาทีเท่านั้น และสามารถรองรับการทำธุรรกรมได้ถึง 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที นั่นทำให้เครือข่ายไม่เกิดความแออัดมากจนเกินไป เหมือนอย่างที่ Ethereum (ETH) ประสบพบเจอในช่วงที่ผ่านมาจนทำให้ค่า Gas สูง
ค่าธรรมเนียม: 0.02 XLM หรือประมาณ 0.19 บาท/ครั้ง
3. ADA (Cardano)
ADA ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Charles Hoskinson อดีตผู้ก่อตั้งร่วม Ethereum ซึ่งเขาได้ออกแบบให้เครือข่ายมีการประมวลผลที่รวดเร็วมากและสามารถรองรับธุรกรรมได้ทั่วโลก โดยรองรับได้กว่า 257 ธุรกรรมต่อวินาที ในขณะที่ Ethereum Blockchain ทำได้เพียง 20 ครั้งต่อวินาทีเท่านั้น
และยังเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ได้รับความนิยมในการใช้โอนเงินไปมาเช่นกัน โดยมีเพียงค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมแค่ 1 ADA เท่านั้น แต่ปัจจุบันเนื่องจากราคาของเหรียญ Cardano (ADA) ได้พุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแตะระดับ $2 หรือกว่า 70 บาท อาจทำให้ผู้ที่ต้องการใช้งานหันไปเลือกใช้สกุลเงินที่มีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า
ค่าธรรมเนียม: 1 ADA หรือ 70 บาท/ครั้ง
4. BNB ( Binance Coin)
แม้จะไม่ได้เป็นเหรียญที่ถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานในการโอนเงินโดยแท้จริง แต่ Binance Coin ก็ยังเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ได้รับความนิยมในการโอนหากัน ด้วยค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างถูกและยังมีความรวดเร็ว จึงทำให้เหล่านักเทรดเลือกความสบายใจที่จะใช้งานเหรียญนี้ค่ะ
BNB เป็นเหรียญที่ถูกใช้บนระบบนิเวศของ Binance Smart Chain ถูก ICO ในปี 2017 โดยกระดานเทรดเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง Binance และเราได้เห็นการเติบโตอย่างรุนแรงของมันมาตั้งแต่ต้นปี 2021 จึงไม่น่าแปลกใจที่ BNB จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการใช้โอนเงินไปยังต่างประเทศ ด้วยค่าธรรเนียมเพียง 0.001 BNB ค่ะ
ค่าธรรมเนียม: 0.001 BNB หรือประมาณ 14 บาท/ครั้ง
5. SOL (Solana)
ได้รับการขนาขนามสำหรับ Solana (SOL) ที่จะมาเป็น Ethereum Killer ตัวต่อไป โดยมีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงที่สุดและค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด ทิ้งห่างสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อย่างไม่เห็นฝุ่น สิ่งนี้เองทำให้มันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ราคาของเหรียญ SOL มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 8,000% ขึ้นไปติดอันดับ Top 10 มูลค่าตลาดโดยรวมเป็นที่เรียบร้อยค่ะ
ค่าธรรมเนียม: 0.00025 ดอลลาร์ หรือ 0.0084 บาท/ครั้ง
6. IOST (IOST)
IOST ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความสามารถในการปรับขนาดของเทคโนโลยีบล็อกเชนและยังต้องการสนับสนุนการชำระเงินออนไลน์ในทุก ๆ แพลตฟอร์มที่ให้บริการแบบกระจายศูนย์ มีจุดเด่นที่ใช้โปรโตคอลฉันทามติ Proof of Believability จึงทำให้แตกต่างจากบล็อกเชนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
เหรียญ IOST ยังได้รับความนิยมในการโอนเงินข้ามประเทศด้วยค่าธรรมเนียมเพียง 1 IOST เท่านั้น ก็สามารถทำให้การรับโอนเงินสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมโดยม่ต้องพึ่งธนาคารดั้งเดิม หมดปัญหาเรื่องความแออัดบนเครือข่ายและค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนไทยให้ความสนใจใช้งานกันค่ะ
ค่าธรรมเนียม: 1 IOST หรือ 1.8 บาท/ครั้ง
7. LTC (Litecoin)
Litecoin (LTC) ถูกเปิดตัวในปี 2011 โดย Chalie Lee เป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา และขีดจำกัดของ Bitcoin ซึ่ง LTC ถูกพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นใน 3 ด้านคือ ค่าธรรมเนียมที่ถูกลง ความเร็วในการประมวลผลในการทำธุรกรรม และการกระจายอำนาจที่มากขึ้น
ค่าธรรมเนียม: 0.4 ดอลลาร์ หรือ 13 บาท/ครั้ง