เดือนธันวาคมนี้เป็นอีกเดือนที่น่าจับตามองสำหรับราคา Bitcoin เนื่องจากกระแสความนิยมของนักลงทุนสถาบันที่กำลังทยอยอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาด Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทการลงทุนระดับโลก MicroStrategy ได้ประกาศระดมทุนเงินมูลค่ากว่า 650 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้แปลงสภาพในอัตรา 0.75% ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2025 โดยบริษัทมีแผนนำเงินทั้งหมดไปลงทุนใน Bitcoin เมื่อนักลงทุนสถาบันเริ่มแสดงความกระหายที่จะซื้อ Bitcoin (BTC) ในระดับที่ใกล้กับจุดสูงสุดตลอดกาลจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่การปรับฐานราคาในเดือนนี้จะร่วงลดลงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อไม่นานมานี้นาย Tyler Winklevoss กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อข่าว CNBC ว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับ “เงินเฟ้อที่เกิดจากการพิมพ์เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID” ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มหันมาลงทุนใน Bitcoin กันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในวันนี้ราคา Bitcoin สามารถพุ่งกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 19,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จอีกครั้งและอาจเตรียมทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากระดับนี้ถูกทำลายลงด้วยความเชื่อมั่น สิ่งนี้ก็อาจสร้างแรง FOMO ให้เกิดขึ้นในหมู่นักเทรดรายย่อยในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน จากนั้น Bitcoin ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในรอบต่อไป
โดยในบทความนี้เราจะมาวิเคราะห์กราฟเหรียญคริปโต 5 อันดับแรกเพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญที่เราควรจับตามองอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ BTC / USD ราคา Bitcoin ได้ปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย EMA ราย 20 วัน (18,435 ดอลลาร์) ในวันที่ 10 และ 11 ธันวาคม
อย่างไรก็ตามไส้แท่งเทียนของวันที่ 11 ธันวาคมนั้นแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อไม่ได้มีอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังได้มีการลงทุนเพิ่มเมื่อตลาดปรับตัวย่อลงอีกด้วย ราคา Bitcoin ได้พุ่งกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 20 วันอีกครั้งในวันที่ 12 ธันวาคม ก่อนที่จะเบรคทะลุกรอบแนวโน้มขาลงและเตรียมทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 19,500 ดอลลาร์อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตามหากราคาลดลงจากระดับปัจจุบันและดิ่งลงต่ำกว่า 17,500 ดอลลาร์
สิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าราคาได้มาถึงจุดสูงสุดในระยะสั้นแล้ว และการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลทำให้ราคาร่วงลงไปที่ระดับ 16,191.02 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับระดับถัดไป เส้นค่าเฉลี่ย EMA 20