ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า RBA มีความพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น โดยจะมุ่งเน้นที่โครงการซื้อพันธบัตร ขณะเดียวกัน RBA จะทบทวนขนาดของโครงการซื้อพันธบัตรในการประชุมหลายครั้งข้างหน้า รวมทั้งพิจารณาผลกระทบจากโครงการดังกล่าวที่มีต่อเศรษฐกิจ
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า RBA คาดว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี และพร้อมที่จะเข้าซื้อพันธบัตรไม่จำกัดจำนวน ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษาเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 3 ปี
นอกจากนี้ กรรมการ RBA ยังได้หารือกันเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยระบุว่า ตลาดแรงงานมีการฟื้นตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ราคาบ้านทั่วประเทศขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนกรณีที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลียนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง แต่ความต้องการแร่เหล็กยังคงแข็งแกร่ง
ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% พร้อมกับคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ที่ระดับ 0.1% และคงโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
นายฟิลลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA ได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่ออสเตรเลียมีความเชื่อมั่นที่จะเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เกือบเป็นศูนย์
“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังดำเนินต่อไป และข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้ได้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งเป็นข่าวดี อย่างไรก็ตาม คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยังคงไม่เท่าเทียมกันในหลายพื้นที่ และทิศทางเศรษฐกิจยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยสนับสนุนด้านนโยบาย”
นายโลว์กล่าว ทั้งนี้ นายโลว์ได้ย้ำว่า คณะกรรมการ RBA จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี และพร้อมที่จะดำเนินการมากขึ้น หากจำเป็น