สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า การที่ประเทศต่างๆเริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั้งในปีนี้และปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 46.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในนรอบ 9 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก หลังจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้ให้การอนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบโอเอ็นเทคพัฒนาร่วมกัน
ขณะนี้ สหรัฐ อังกฤษ บาห์เรน แคนาดา และสิงคโปร์ได้ให้การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์แล้ว โดยอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่แคนาดามีกำหนดฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ดี แรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากกลุ่มโอเปกออกรายงานคาดการณ์ล่าสุดเมื่อวันนี้ว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปี 2564 จะอยู่ที่ 5.9 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 350,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปี 2563 จะอยู่ที่ 89.99 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 9.77 ล้านบาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย