สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 11 เดือนแรกปีนี้ ปรับตัวขึ้น 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีขึ้นจากช่วง 10 เดือนแรกที่ปรับตัวขึ้น 6.3% เมื่อพิจารณาในแง่ของมูลค่า พบว่า ยอดขายที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 14.9 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.28 ล้านล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจาก 5.8% ในช่วง 10 เดือนแรก
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนยังคงมีเสถียรภาพในเดือนพ.ย. โดยราคาบ้านในเมืองใหญ่มีการขยายตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือนอีกทั้ง รายงานของ NBS ระบุว่า ราคาบ้านใหม่ใน 4 เมืองหลักของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนต.ค. ส่วนราคาบ้านใหม่ใน 31 เมืองรองระดับ 2 ของจีน และราคาบ้านใหม่ใน 35 เมืองรองระดับ 3 ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนยังคงย้ำหลักการที่ว่า “บ้านมีไว้เพื่ออยู่อาศัยไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร” โดยในการควบคุมการเก็งกำไรราคาที่อยู่อาศัยนั้น จีนจะดำเนินนโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละเมือง