ราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ท่ามกลางอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว แม้ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ขยับขึ้น 0.14% เป็น 85.29 ดอลลาร์เมื่อเวลา 22:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2:40 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI เพิ่มขึ้น 0.02% เป็น 83.78 ดอลลาร์
.
การเริ่มต้นของฤดูหนาวทางตอนเหนือนั้นมีหลายอย่างที่คาดการณ์ว่าอุปสงค์จะเพิ่มขึ้น แม้ว่าการแทรกแซงของรัฐบาลจะทำให้ตลาดพลังงานและถ่านหินของจีนอยู่ภายใต้การควบคุมจนถึงตอนนี้
.
เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า "การคาดการณ์สำหรับเดือนพฤศจิกายนที่หนาวเย็นกว่านั้น นักเทรดด้านพลังงานจะเตรียมพร้อมสำหรับตลาดที่ตึงตัวมาก ซึ่งจะตอบสนอง (ด้วย) ความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อนในฤดูหนาวนี้"
.
“ตลาดน้ำมันนี้จะยังคงตึงตัว และนั่นน่าจะหมายถึงพาดหัวข่าวห่างจากน้ำมัน 90 ดอลลาร์” เขากล่าวเสริม . Goldman Sachs (NYSE: GS ) คาดการณ์ว่า Brent มีแนวโน้มที่จะไปไกลกว่าที่คาดการณ์ไว้สิ้นปีที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากการเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นน้ำมันอาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd)
.
หลังจากอุปสงค์ในสหรัฐฯ ตกต่ำมากว่าหนึ่งปี การบริโภคน้ำมันเบนซินและการกลั่นก็กลับมาอยู่ในแนวเดียวกับค่าเฉลี่ยรอบห้าปี . ระดับสินค้าคงคลังของสหรัฐคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่คาดว่าสินค้าคงเหลือน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นจะลดลง