กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 24 ในเดือนพ.ย. โดยได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในสหรัฐ และจีน นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจ ของญี่ปุ่นอาจกลับมาฟื้นตัวได้ช้าลง รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ร่วงลง 4.2% เมื่อเทียบรายปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% โดยยอดส่งออกญี่ปุ่นปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 24 ทำสถิติลดลงต่อเนื่องยาวนานที่สุด ส่วนเมื่อเดือนต.ค. ยอดส่งออกของญี่ปุ่นลดลง 0.2% ทางส่วนยอดนำเข้าเดือนพ.ย.ร่วงลง 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 10.5% ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 3.668 แสนล้านเยน (3.54 พันล้านดอลลาร์) น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.298 แสนล้านเยน
เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศพบว่า ยอดส่งออกไปยังสหรัฐหดตัวลง 2.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากการส่งออกอุปกรณ์ด้านการผลิตเครื่องบินชะลอตัวลง ขณะที่ยอดส่องออกไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากยอดส่งออกอุปกรณ์สื่อสาร อย่างไรก็ดี ยอดส่งออกไปยังจีนขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 5 เดือน
ส่วนยอดส่งไปยังเอเชียลดลง 4.3% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่ยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรปลดลง 2.6%