สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันอังคาร(15ธ.ค.)พุ่งขึ้น 63 เซนต์ ท่ามกลางความหวังที่ว่าการที่ประเทศต่างๆเริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มก่อการร้ายได้ทำการโจมตีต่อเรือบรรทุกน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 47.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 50.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะนี้ สหรัฐ อังกฤษ บาห์เรน แคนาดา และสิงคโปร์ได้ให้การอนุมัติวัคซีนของไฟเซอร์แล้ว โดยอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐและแคนาดาได้เริ่มฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้ กระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียแถลงวานนี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายได้ทำการโจมตีต่อเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งจนเกิดการระเบิดขึ้น ขณะที่กำลังถ่ายน้ำมันที่ท่าเรือเจดดาห์ในซาอุดีอาระเบีย
อย่างไรก็ดี ทางกระทรวงปฏิเสธที่จะระบุว่า กลุ่มใดเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว