สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ชาวยุโรปจะเริ่มได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนปีใหม่หลังหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาของยุโรปได้เร่งกระบวนการอนุมัติการใช้วัคซีน หลังจากที่สหรัฐและสหราชอาณาจักรได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว ซึ่งสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ออกมาเปิดเผยว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจะประชุมกันในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค. เพื่อประเมินวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบออนเทค โดยเลื่อนเร็วขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ EMA ระบุว่าการประชุมอาจมีขึ้นในวันที่ 29 ธ.ค. แม้ว่า EMA มีอำนาจในการออกคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาทางการแพทย์ใหม่ๆ แต่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจสูงสุดในการอนุมัติ และมักจะปฎิบัติตามคำแนะนำของ EMA

EMA ยังเปิดเผยอีกว่า จะจัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญหลังบริษัทต่างๆ ให้ข้อมูลมากขึ้นตามที่ร้องขอ ขณะที่ EC จะติดตามขั้นตอนการทำงานของ EMA เพื่อเร่งให้มีการอนุมัติใช้วัคซีนโดยเร็ว นายเยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีอาจเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายใน 24-72 ชั่วโมง หลังวัคซีนของไฟเซอร์-

ไบออนเทคได้รับอนุมัติจาก EU และอาจเริ่มฉีดได้อย่างเร็วที่สุดภายในช่วงวันหยุดคริสมาสต์นี้ นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธาน EC ช่วยเสริมความเชื่อมั่นดังกล่าวโดยทวีตข้อความว่า "มีแนวโน้มที่ชาวยุโรปกลุ่มแรกจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิดก่อนสิ้นปี 2563"

รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และอีก 5 ประเทศในยุโรประบุในแถลงการณ์ร่วมว่า จะร่วมมือกันเพื่อเริ่มการรณรงค์ฉีดวัคซีน แถลงการณ์ที่เปิดเผยโดยอิตาลีซึ่งลงนามร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า ประเทศต่างๆ จะส่งเสริมความร่วมมือในการเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีน และจะทำการแบ่งปันข้อมูลอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับวิธีดำเนินการ