AUD/USD ร่วงลงต่ำกว่า 0.7300 หลังข้อมูลการจ้างงานในออสเตรเลียออกมาแย่กว่าคาด โดยรายงานอัตราการจ้างงานเดือนต.ค.ของออสเตรเลียติดลบและต่ำกว่าคาด โดยการจ้างงานทั้งหมดลดลง 46,300 ตำแหน่ง สาเหตุหลักมาจากการตกงานประจำ (-40,400 ตำแหน่ง) และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นจาก 4.6% เป็น 5.2% ในขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.94% แตะที่ 94.868 เมื่อคืนนี้
.
จำนวนการจ้างงานของออสเตรเลียยังคงสะท้อนถึงการล็อกดาวน์ครั้งก่อนๆ ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนในรัฐนิวเซาท์เวลส์และวิกตอเรียที่มากกว่า 80% แผนงานในการคลายล็อคดาวน์กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ขณะที่ทางรัฐบาลได้คาดหวังว่าจะเมีจำนวนการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
.
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 ในวันพุธ กดดันให้เฟดคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ข้อมูลการจ้างงานของออสเตรเลียทำให้ตลาดผิดหวัง ทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ลดลง
.
แนวโน้มนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างเฟดและRBAจะยังคงส่งผลกระทบต่อค่าเงินออสซี่ต่อไป อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูข่าวภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
.
บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ Evergrande ผิดนัดชำระหนี้กับคู่ค้าอย่าง DMSA - Deutsche Marktscreening Agentur (ตลาดเยอรมันคัดกรอง Agency) มีแนวโน้มที่จะถูกยื่นฟ้องล้มละลายของบริษัท
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
เมื่อดูกราฟรายวันของ AUD/USD ที่กำลังเผชิญกับแนวรับสำคัญที่ 0.7290-0.7285 ซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของจุดต่ำสุดของวันที่ 11 ตุลาคมและ 8 ตุลาคม โดยกราฟได้เบรคเอาท์เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 รายวัน(DMA50) ที่ 0.7369 วันก่อน ในขณะเดียวกัน ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ 14 วัน (RSI) ได้คลายตัวออกจากจุดต่ำสุด แต่ยังอยู่ต่ำกว่าเส้นกึ่งกลาง หนุนการดีดตัวกลับล่าสุดในจุดนั้น แม้ว่าความเสี่ยงด้านลบยังคงมีอยู่จากการฟื้นตัวของการขาย แต่ด้วยแนวรับหลักที่กล่าวถึงข้างต้นเพื่อหลีกทางให้การแกว่งตัวครั้งใหม่ไปสู่แนวรับแนวต้านในแนวนอนที่ 0.7250
.
Updated
2 years ago
(Nov 11, 2021 17:06)