ดอลลาร์ พุ่งทยานสูงสุดในรอบ 16 เดือน แตะระดับ 95.240 ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ กดดัน FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4.80% ในปีหน้า ก่อนที่จะลดลงเหลือ 3.65% ในอีก 2 ปี และอยู่ที่ 3.16% ในอีก 5 ปีและอยู่ 2.68% ในอีก 10 ปีข้างหน้า
.
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงหลุดจากระดับ 36,000 จุดเมื่อคืนนี้ โดยถูกกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 80% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.2022 และมีแนวโน้ม 100% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.2022 ส่วนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.2022
.
นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด โดยเหล่านักลงทุนกำลังกำหนดราคาขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2565 และอีกครั้งในเดือนธันวาคมของปีนั้น
.
ทางด้าน Kimberley Mundy นักยุทธศาสตร์จาก Commonwealth Bank of Australia ระบุในหมายเหตุว่า “เรายังคงคิดว่าการกำหนดราคาในตลาดยังมีช่องว่างให้มั่นคงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2023 ซึ่งสามารถสนับสนุน USD ให้แข็งค่าขึ้นต่อไป”
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง DXY พุ่งทยานสูงสุดในรอบ 16 เดือน แตะระดับ 95.240 ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อยที่ระดับ 95.239 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตามทิศทางกราฟมีลักษณะเป็น Uptrend ซึ่งหากไม่สามารถทลายแนวรับที่ระดับ 95.091 ได้ ก็มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 95.262 / 95.408 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 95.262 / 95.408
แนวรับสำคัญ : 95.091 / 94.848
.
Updated
2 years ago
(Nov 12, 2021 12:26)