ดัชนีดอลลาร์ เคลื่อนตัวอยู่ในโซนต่ำกว่าระดับ 95.100 เช้านี้ หลังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 10.44 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.46 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.63 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.
.
โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดิ่งลงสู่ระดับ 66.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 จากระดับ 72.8 ในเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 72.5
.
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ปฏิเสธแผนการของบริษัทอินเทลที่จะเพิ่มการผลิตชิปในประเทศจีน เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคง ซึ่งก็ได้ทำให้การเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนชิปของสหรัฐประสบกับความล้มเหลว
.
รวมทั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันได้กดดันบรรดาผู้บริหารบริษัทสหรัฐให้เรียกร้องสมาชิกสภาคองเกรสทำการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกร่างกฎหมายใด ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐ
.
แม้ปัจจัยต่างๆจะกดดัน DXY แต่ในด้าน องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันศุกร์ (12 พ.ย.) ว่า ทวีปยุโรปรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เกือบ 2 ล้านรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นยอดติดเชื้อรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในยุโรป
.
วันศุกร์ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้น 179.08 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี S&P500 ปิด +0.72% และดัชนี Nasdaq ปิด +1.00% โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และนักลงทุนขานรับแผนปรับโครงสร้างของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J)
.
.
.