EUR/USD ยังคงอยู่บริเวณระดับต่ำสุดของปีใกล้กับ 1.1230 คู่สกุลเงินหลักปรับตัวลดลงในช่วง 2 วันที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นหนุนดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ที่แข็งค่า

คูปองพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดในหนึ่งสัปดาห์เมื่อวันก่อน เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เสนอชื่อเจอโรม พาวเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อีกหนึ่งวาระ ขณะที่เสนอชื่อริชาร์ด คลาริดาให้ดำรงตำแหน่งรองประธาน ด้วยกระแสที่ไม่ค่อยดีนักจากนายพาวเวลล์ การเสนอชื่อของไบเดนผลักดันให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยและทำให้อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังพลิกกลับมาขาดทุนในสัปดาห์ก่อน 

ราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมืองแอตแลนตา และเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชื่นชมการตัดสินใจของไบเดน ในขณะที่ส่งสัญญาณที่หลากหลายเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดและอัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้กับตลาดโดยไม่มีความคิดเห็นใหม่ ในขณะที่ ราฟาเอล บอสติก ของเฟดเน้นย้ำถึงเศรษฐกิจที่ลดลงและโควิด-19 ที่เร็วขึ้น เจเน็ต เยลเลนกล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าแรงกดดันด้านราคาลดลงเมื่อชีวิตเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2022

นอกจากนี้ แรงกดดันด้านลบต่อค่าเงิน EUR/USD ยังเป็นปัญหาของ COVID-19 ในกลุ่มนี้อีกด้วย “เมื่อวันจันทร์ ออสเตรียกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตกที่บังคับใช้การล็อกดาวน์อีกครั้ง นับตั้งแต่มีการเปิดตัววัคซีน ปิดร้านค้า บาร์ และร้านกาแฟที่ไม่จำเป็น เนื่องจากมีเคสที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดความหนาวเย็นติดต่อกันเป็นครั้งที่สองของทวีป” รอยเตอร์กล่าว ข่าวดังกล่าวยังได้อ้างคำพูดของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ที่กล่าวว่า “เราอยู่ในสถานการณ์ที่น่าทึ่งมาก สิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ไม่เพียงพอ”

นอกจากนี้ความคิดเห็นของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และความเชื่อมั่นของตลาดว่าเฟดจะเป็นผู้นำธนาคารกลางในภูมิภาค ตราบใดที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังส่งผลกระทบต่อราคา EUR/USD ด้วย เมื่อเร็วๆ นี้ สมาชิกสภาปกครองของ ECB ได้แก่ Martins Kazaks และ François Villeroy de Galhau ได้แสดงสัญญาณที่หลากหลายเกี่ยวกับการยุติโครงการจัดซื้อจัดจ้างฉุกเฉินสำหรับโรคระบาด (PEPP)

ท่ามกลางการคาดการณ์เหล่านี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 1.627% ในขณะที่สัญญาซื้อขายหุ้นล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังคงอยู่ในระดับที่ไม่ดีนัก นอกจากนี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 16 สัปดาห์ซึ่งพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเอเชียก่อนหน้านี้

ต่อไป ตัวเลข PMI จากเยอรมนีและยูโรโซนอาจมีแนวโน้มทำให้ค่าเงิน EUR/USD อ่อนค่าลง หากMarkit รายงานตัวเลข PMI คู่เงินหลักอาจได้รับผลกระทบด้านลบ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ในขณะที่เงื่อนไข RSI ที่มีการขายมากเกินไปบ่งบอกถึงการดึงกลับเพื่อแก้ไขแนวต้านที่ใกล้ 1.1320 แต่ EUR/USD จะเสี่ยงที่จะทดสอบระดับต่ำสุดในเดือนมิถุนายน 2020 ใกล้ 1.1170 จากการทะลุแนวรับ 1.1200