น้ำมันดิบ WTI จะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ด้วยสัญญาณขาลงอย่างรุนแรง โดยสูญเสียมูลค่ามากกว่า 1% ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันศุกร์ เนื่องจากกังวลว่าการปล่อย SPR ที่ประสานงานกันโดยสหรัฐฯ และบางประเทศในเอเชียอาจผลักดันอุปทานส่วนเกินในตลาดน้ำมันในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 โดยน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายที่ประมาณ 75.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันที่ร่วงลงเกิดจากฝ่ายบริหารของไบเดน ซึ่งยืนยันว่ากำลังวางแผนที่จะปล่อยน้ำมันหลายล้านบาร์เรลออกจากแหล่งสำรองทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการประสานงานกับผู้บริโภคพลังงานชั้นนำอื่นๆ จากเอเชีย รวมทั้งจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย เพื่อลดราคาน้ำมันในตลาด
ตามแหล่งข่าวของโอเปก การพัฒนาอาจส่งผลให้เกิดน้ำมันล้นตลาดเนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น โดยการคาดการณ์ชี้ให้เห็นการเกินดุล 400k bpd ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ การใช้ SPR โดยประเทศเหล่านี้อาจทำให้น้ำมันเกินดุลในตลาดต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมกราคม และเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
กลุ่ม OPEC+ จะประชุมกันในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการผลิตน้ำมันดิบ และข่าวนี้น่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในวาระการประชุมของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะดูว่าโอเปกและพันธมิตรตอบสนองโดยการปรับปริมาณน้ำมันเพื่อตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกอย่างจำกัด พวกเขาคาดหวังว่าจะช่วยบรรเทาความตึงตัวของอุปทานได้ หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจที่จะเพิ่มผลผลิตทีละน้อย แทนที่จะทำให้ตลาดล้นตลาดด้วยอุปทานน้ำมันส่วนเกิน