ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 0.14% แตะระดับ 96.038 เมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ อาทิ การจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP และดัชนีภาคการผลิตจาก ISM
.
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 61.1 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 61.0 จากระดับ 60.8 ในเดือนต.ค.
.
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 534,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 506,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 570,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
.
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดไปใน 23 ประเทศทั่วโลก และ WHO คาดการณ์ว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก
.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกเกี่ยวกับข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในสหรัฐ โดยหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรมแรมร่วงลงทันทีจากรายงานข่าวดังกล่าว
.
นักลงทุนในตลาดต่างตื่นตระหนกจากข่าวที่ว่า omicron อาจติดต่อได้มากกว่ารุ่นก่อน ๆ ซึ่งกดดันให้ทางรัฐบาลแต่ละประเทศได้พิจารณาถึงการล็อคดาวน์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 0.14% แตะระดับ 96.038 เมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตามทิศทางกราฟมีลักษณะเป็น sideway down (สังเกตจากราคาที่วิ่งอยู่ระดับเดียวเส้นค่าเฉลี่ย) ซึ่งหากไม่สามารถทลายแนวรับที่ระดับ 95.793 ได้ ก็มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 96.164 / 96.570 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 96.164 / 96.570
แนวรับสำคัญ : 95.793 / 95.528
.
Updated
3 years ago
(Dec 02, 2021 12:17)