เมื่อต้นวันอังคารที่ผ่านมา น้ำมันดิบ WTI ซื้อขายใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ Omicron ที่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันทั่วโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจ ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI ซื้อขายที่ประมาณ 75.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

จนถึงปีนี้ราคาน้ำมันได้แข็งค่าขึ้นมากถึง 50% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ Omicron จะคลี่คลายลงและกลุ่มประเทศ OPEC+ จะฟื้นฟูการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์กำลังรอการประชุมที่จะเกิดขึ้นระหว่างโอเปกและพันธมิตรในสัปดาห์หน้า ซึ่งประเทศผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำจะเรียกร้องว่าจะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบอีก 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่

ในระหว่างการประชุมครั้งล่าสุด ประเทศต่างๆ เดินหน้าด้วยการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม แม้ว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคฌรน่าสายพันธ์ใหม่ Omicron ก็ตาม เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ยกเลิกแผนการบังคับใช้ข้อจำกัดใหม่ ดูเหมือนว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นผลดี เนื่องจากความต้องการน้ำมันยังคงแข็งแกร่งทั่วโลก แม้ว่าจะมีการระบาดของการติดเชื้อครั้งล่าสุด

สหราชอาณาจักรได้ตัดสินใจที่จะไม่กำหนดมาตรการควบคุมใดๆ เพิ่มเติมก่อนสิ้นปีนี้ แม้ว่าจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ Omicron เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า รัฐบาลเชื่อว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถรับมือกับกรณีที่มีผู้ป่วยสูงได้ในตอนนี้ แต่ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป รัฐบาลอาจพิจารณาเปลี่ยนแผน

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังคงมีอยู่อย่างจำกัด เนื่องจากสหรัฐฯ เห็นการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,300 เที่ยวในช่วงต้นสัปดาห์นี้จากความกังวลของการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฌคโรน่าสายพันธ์ใหม่ Omicron นอกจากเที่ยวบินแล้ว เรือสำราญหลายลำยังได้ลดขอบเขตการดำเนินงานลง เนื่องจากจำนวนลูกเรือที่ลดลง ความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงทั่วประเทศ