ทองคำปิดลบ ร่วงลงกว่า 1,700 จุด จาก high ที่ $1,820 สู่ $1,803 หลังเจอแรงขายทางเทคนิคและแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น 0.09% แตะที่ระดับ 96.153 เมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ขณะที่เขียนราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาที่ $1,805
.
สัญญา Fed fund futures ซึ่งสะท้อนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด ได้ปรับตัวรับโอกาส 50% สำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ภายในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นโอกาสที่ “ไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้
.
กระทรวงสาธารณสุขกรีซคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของกรีซจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้
.
ผลการวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ระบุว่า การติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing Antibody) ที่สามารถต้านไวรัสเดลตาได้ และอาจจะทำให้สายพันธุ์เดลตาหายไป
.
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 16 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 12 ในเดือนพ.ย. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีภาคการผลิตจะทรงตัวที่ระดับ 12 ในเดือนธ.ค.
.
แม้ปัจจัยต่างๆจะกดดันราคาทองคำ แต่ในด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +2.03 ตันสู่ระดับ 975.66 ตัน ทำให้ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลงแล้ว -195.08 ตัน สกัดช่วงลบราคาทองคำ
.
รวมทั้งด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.455% จากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ก่อนที่บอนด์ยีลด์จะลดช่วงติดลบหลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับ COVID-19 โอมิครอน สกัดช่วงลบราคาทองคำ
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ทองคำปิดลบ ร่วงลงกว่า 1,700 จุด จาก high ที่ $1,820 สู่ $1,803 ก่อนจะปรับตัวขึ้นในเช้าวันพุธมาที่ $1,805 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตามแนวโน้มกรอบเวลา H4 เป็น Downtrend แต่มองภาพระยะสั้นทองคำมีการปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องใน 5 วันที่ผ่านมา ซึ่งหากกราฟไม่สามารถทลายแนวรับที่ $1,800 ได้ ก็มีโอกาสกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ $1,812 และ $1,820 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 1,812/ 1,820
แนวรับสำคัญ : 1,800 / 1,791
.
