ในคืนที่ผ่านมา Bitcoin ได้ทำราคาทะลุ 40,000 ดอลลาร์โดยสร้างราคาต่ำสุดไว้ที่ 39,650 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่พบล่าสุดในเดือนตุลาคมก่อนสร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ 69,000 ดอลลาร์ การร่วงลงของราคา Bitcoin ได้ทำให้ Altcoin จำนวนมากร่วงลงเป็นแนวโน้มเดียวกับ BTC อย่างไรก็ตามแนวรับสำคัญได้สกัดช่วงลบ Bitcoin และฟื้นตัวมาอยู่ที่บริเวณ 42,000 ดอลลาร์ในเช้าวันอังคาร ท่ามกลางวิกฤตเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง
.
นักลงทุนกังวลเรื่องปัญหาเงินเฟ้อสูงที่จะกดดันให้ FED ต้องเร่งการขึ้นดอกเบี้ย จนดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นไปเฉียด 1.8% แล้วในคืนนี้ หรือสูงที่สุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่มกราคมปี 2020
.
การดีดขึ้นของ Bond Yield นี้เป็นผลลบต่อตลาดคริปโตอย่างแน่นอน เพราะหากดอกเบี้ยยิ่งสูง นักลงทุนก็จะโยกเงินเข้าตลาดพันธบัตรเพื่อรับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น (โดยไม่มีความเสี่ยง) ทำให้เป็นการดึงสภาพคล่องออกไปจากตลาดคริปโต
.
การปรับตัวลดลงของราคาคริปโตต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ FED มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ประกอบกับเหตุการณ์ไม่สงบในคาซัคสถานที่ส่งผลให้อัตราแฮชลดลงอย่างต่อเนื่อง
.
นโยบายการเงินที่เปลี่ยนไปของ Fed กำลังสร้างความท้าทายที่สำคัญสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง แต่นักวิเคราะห์ที่ Delphi Digital ตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาที่ต้องเผชิญกับ BTC และตลาด crypto นั้นเกี่ยวข้องกับ “สภาวะสภาพคล่องที่เข้มงวดและความผันผวนของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น” มากกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
.
โดยจากข้อมูลของ Delphi Digital “สิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้สินทรัพย์ BTC และ crypto ไปสู่จุดสูงสุดใหม่ในช่วง 12–18 เดือนที่ผ่านมาได้เริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม” ดังที่เน้นไว้ในภาพด้านล่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า M2 supply ทั่วโลกมียอดสูงสุดเมื่อใกล้มีนาคมปี 2021 และตกต่ำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
.
.
อุปทานสูงสุดใน M2 เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ Bitcoin แตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในต้นปี 2021 และตามมาด้วยการขาดทุนต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ในอีกสองสามเดือนข้างหน้า
.
แม้จะมีการฟื้นตัวของ BTC ในช่วงปลายปี 2021 ซึ่งสร้างระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 68,789 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน แต่อุปทาน M2 ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งเป็นผลจาก FED ที่เผยแผนการที่จะเร่งระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ย
.
Delphi Digital ตั้งข้อสังเกตว่า BTC มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผกผันกับ DXY Index “เรายังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในการกำหนดทิศทางของตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเรื่องการลดค่าเงิน”
.
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง BTC/USD ร่วงหลุดแนวรับ $40,000 ทำ Low ที่ $39,650 ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งอยู่บริเวณ $42,000 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังคงเป็น Down Trend ซึ่งหากไม่สามารถกลับมายืนเหนือแนวต้านที่ $43,700 ได้ ก็มีโอกาสลงต่อไปเทสแนวรับที่ 40,500 / 38,900 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 43,700 / 45,500
แนวรับสำคัญ : 40,500 / 38,900
แนวรับสำคัญ : 40,500 / 38,900
.
