ดัชนีดอลลาร์ร่วงแตะระดับ 94.66 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 10 พ.ย. หลังจากแข็งค่าขึ้น 6.3% ในปี 2021 และปรับตัวลดลงแล้วประมาณ 1% ในสัปดาห์นี้ ทำให้มีแนวโน้มเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดในรอบ 8 เดือน หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่เกินคาด อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 94.69
.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (13 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
.
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 176.70 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี S&P500 ปิด -1.42% และดัชนี Nasdaq ปิด -2.51% จากการที่เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
.
บอนด์ยีล์ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.732% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.082% จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย
.
Issa นักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่าส่วนหนึ่งของแรงขายในดอลลาร์เกิดจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากในวันพุธค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเหนือระดับ $1.14 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน “เมื่อเราผ่านระดับ $1.14 ทำให้โมเมนตัมเทรดเดอร์มักจะพลิกกลับมาขายดอลลาร์”
.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย. 2010 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.8%
.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 200,000 ราย
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค
ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์ร่วงแตะระดับ 94.66 เมื่อคืนนี้ และปัจจุบันมีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 94.69 อย่างไรก็ตามทิศทางกราฟมีลักษณะเป็น SidewayDown ซึ่งตอนนี้แรง Sell ยังคงมีปริมาณสูง (ดูจากการปิดแท่งราคาแดงและ MACD ยังอยู่ในโซนต่ำกว่า 0 ) อย่างไรก็ดี หากกราฟไม่สามารถทะลายแนวรับที่ระดับ 94.614 ได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 94.898 / 95.248 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 94.898 / 95.248
แนวรับสำคัญ : 94.614 / 94.245
.
