ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.54% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 สัปดาห์ที่ 96.576 ในวันนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากกว่าคาด โดยในปัจจุบันมีการปรับตัวลงเล็กน้อย และเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 96.615
.
สรุปผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ เดือนม.ค. มีประเด็นสำคัญดังนี้
1. เฟดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% เฟดไม่ได้ระบุว่าจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลเมื่อใด จากปัจจุบันที่พุ่งสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์
2.เฟดจะยังคงปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งจะส่งผลให้การทำ QE ของเฟดสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.
3.เฟดคาดว่ากระบวนการปรับลดขนาดงบดุลจะเริ่มขึ้น หลังจากที่มีการเริ่มกระบวนการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้ไม่ได้ระบุว่าจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลเมื่อใด จากปัจจุบันที่พุ่งสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์
4.นายพาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า “ยังมีช่องว่างพอ” ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และเฟดไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในทุกการประชุม
5.นายพาวเวล ประธานเฟดกล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อว่า "ยังไม่ดีขึ้น และมันอาจจะแย่ลงเล็กน้อย และในกรณีที่สถานการณ์แย่ลงไปอีก นโยบายการเงินของเฟดจะต้องสะท้อนถึงสิ่งนั้น"
.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งอ่อนไหวต่อนโยบายปรับลดงบดุลของเฟด เพิ่มขึ้นสู่นะดับ 1.880% หลังนายพาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าจะมีการตัดสินใจในไม่ช้านี้ว่าจะเริ่มลดงบดุลเมื่อใด
.
ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 129.64 จุด หรือ -0.38%, ดัชนี S&P500 ปิด -0.15% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (26 ม.ค.) โดยหุ้นทุกกลุ่มปิดตลาดในแดนบวก ขณะนักลงทุนรอธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศนโยบายการเงินหลังจากตลาดปิดทำการซื้อขาย
.
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 360,546,183 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 5,637,916 ราย
.
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.54% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 สัปดาห์ที่ 96.576 ในเช้าวันนี้ ก่อนจะปรับตัวลงเล็กน้อย และเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 96.615 ณ เวลาทีเขียน อย่างไรก็ตามทิศทางกราฟมีลักษณะเป็น Sideway Down หากสังเกตจากกรอบแชแนลสีเหลือง แต่ในภาพรวมระยะสั้นจากกรอบแชแนลสีฟ้าสามารถมองเป็น Up Trend ได้ ซึ่งหากไม่สามารถทะล Demand Zone บริเวณระดับ 96.485 - 96.273 ไปได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 96.485 / 96.350 / 96.611 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 96.693 / 96.899 / 96.064
แนวรับสำคัญ : 96.485 / 96.273 / 96.124
.
Updated
2 years ago
(Jan 27, 2022 11:35)