ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.75% ซึ่งเป็นการแข็งค่าขึ้นในวันเดียวที่มากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2020 ที่ 97.292 หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. และการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4/2021 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน DXY มีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 97.161 ณ เวลาที่เขียน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2021 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.5%
ทำเนียบเครมลินแถลงในวันนี้ว่า รัสเซียและสหรัฐยังคงมีช่องทางในการเจรจาต่อไป แต่เห็นได้ชัดว่าข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนองจากทางสหรัฐ
ทางการรัสเซีย “ปฏิเสธ” รายงานที่ว่ารัสเซียอาจส่งกำลังทหารเข้าประจำการในคิวบาและเวเนซุเอลาเพื่อตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐและชาติตะวันตกไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซีย
Dario Perkins นักเศรษฐศาสตร์จาก TS Lombard ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ให้ความเห็นว่าตลาดการเงินโลกควรเตรียมเผชิญภาวะที่ "เป็นหลุมเป็นบ่อ"
อย่างไรก็ตามแม้ปัจจัยต่างๆจะหนุน DXY แต่ในด้าน ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 7.31 จุด หรือ -0.02%, ดัชนี S&P500 ปิด -0.54% และดัชนี Nasdaq ปิด -1.40% ลดช่วงบวกในช่วงต้นวันเนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด สกัดช่วงบวก DXY
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 3.8% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงเพียง 0.2% ในเดือนธ.ค.