ราคาน้ำมันทรงตัวในวันจันทร์หลังจากผันผวนในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเทรดเดอร์พยายามที่จะแยกแยะการประชุมสุดยอดที่เป็นไปได้ระหว่างผู้นำของรัสเซียและสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน รวมถึงความเป็นไปได้ที่การส่งออกของอิหร่านจะกลับสู่ตลาดโลก 

 

เมื่อเวลา 4:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (0920 GMT) ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) ร่วงลง 0.1% มาอยู่ที่ 91.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ร่วงลง 0.1% แตะที่ 90.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

นักลงทุนได้คลายความกังวล หลังประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้ตกลงที่จะหารือกันถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดในยูเครน

 

ตลาดได้รับการสนับสนุนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความตึงเครียดที่ชายแดนยูเครน เนื่องจากรัสเซียระดมกำลังทหารที่นั่น ขณะเดียวกันก็ทำการซ้อมรบทางทหารในเบลารุสที่อยู่ใกล้เคียง การรุกรานของรัสเซียและการตอบโต้หลังการคว่ำบาตรที่นำโดยสหรัฐฯ อาจทำให้แหล่งผลิตพลังงานทั่วโลกมีความคาดหวังต่อตลาดลดลง

 

“แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่รัสเซียอาจทำ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนมากกว่าว่าทางด้านตะวันตกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร” นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในหมายเหตุว่า “สหรัฐฯ ได้เสนอแนะว่าจะตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตร อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น หรือจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียหรือไม่ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับสอง เพราะฉะนั้นมีแนวโน้มว่าผลกระทบในด้านการส่งออกน้ำมันอาจจะเป็นไปในทางที่ดี”

 

ห่างจากพรมแดนยูเครน ประเด็นหลักอื่น ๆ ของการอภิปรายในตลาดน้ำมันดิบคือความพยายามที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านในปี 2015 โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพยุโรปที่กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าข้อตกลงดังกล่าว "ใกล้เข้ามาถึงแล้ว"

 

การลงนามในข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จน่าจะส่งผลให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตรด้านการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ส่งผลให้น้ำมันดิบอิหร่านกลับสู่ตลาดได้มากถึงหนึ่งล้านบาร์เรลต่อวัน

 

“เห็นได้ชัดว่าข้อตกลงจะเป็นการกดดันตลาดในเทรนด์ขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอิหร่านสามารถเพิ่มการส่งออกได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดหมีจะขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่ฝั่งไหนในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนในเวลานั้น” ING กล่าวเสริม