ทองปิดลบกว่า $5 จากแรงขายทำกำไร และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมา “ดีเกินคาด” โดยร่วงจาก High ที่ $1,914 สู่ Low ที่ $1,891 อย่างไรก็ตามความตึงเครียดยูเครนยังอยู่หนุนทองฟื้นตัวกลับมาที่ $1,899 ณ เวลาที่เขียน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.07% แตะที่ 96.064 เมื่อคืนนี้
มาร์กิต เผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 51.1 ในเดือนม.ค.
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 โดยร่วงลงสู่ระดับ 110.5 ในเดือนก.พ. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 110.0 จากระดับ 111.1 ในเดือนม.ค.
แม้ 2 ปัจจัยดังกล่าวจะกดดันราคาทองคำ แต่ในด้านดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 482.57 จุด หรือ -1.42%, ดัชนี S&P500 ปิด -1.01% และดัชนี Nasdaq ปิด -1.23% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน สกัดช่วงบวกทองคำ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศมาตรคว่ำบาตรธนาคาร VEB ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของรัสเซีย และคว่ำบาตรธนาคาร PSB ซึ่งเป็นธนาคารของกองทัพรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารทั้งสองแห่งไม่สามารถทำธุรกรรมในรูปสกุลเงินดอลลาร์ได้
รัฐบาลสหรัฐได้ขยายข้อจำกัดในการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรัสเซียในวันอังคาร เพื่อลงโทษรัสเซียฐานก่อความขัดแย้งกับยูเครน การเคลื่อนไหวที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าอาจส่งผลกระทบในระดับปานกลางในระยะสั้น แต่อาจเป็นก้าวหนึ่งที่ไปสู่มาตรการที่รุนแรงขึ้น
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวเมื่อวันอังคารว่า เขาได้ยกเลิกการประชุมกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งวางแผนไว้ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่รัสเซียได้รับรองเขตแบ่งแยกดินแดน 2 แห่งในยูเครนเป็นรัฐอิสระ
นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า รัสเซียเตรียมการโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ทองปิดลบกว่า $5 ร่วงจาก High ที่ $1,914 สู่ Low ที่ $1,891 โดยปัจจุบันได้ฟื้นตัวกลับมาที่ $1,899 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตามแนวโน้มการวิ่งของกราฟยังเป็น Uptrend หากมองในมุมที่กราฟสามารถยืนเหนือเส้นเทรนด์ไลน์สีแดงที่โซน $1,889 และกราฟสามารถยืนเหนือเส้น EMA ทุกค่าได้ รวมทั้งยังไม่สามารถกลับมา Re-test เทรนด์ไลน์สีแดงได้ อย่างไรก็ดี หากไม่สามารถร่วงลงมาทะลุแนวรับและดีมานด์โซน บริเวณ $1,879 - $1,870 ได้ ก็มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $1,914 / $1,924 / $1,933 ตามลำดับ
แนวต้านสำคัญ : 1,905 / 1,914 / 1,924
แนวรับสำคัญ : 1,889 / 1,879 / 1,870
