น้ำมันดิบ Brent พุ่งทะลุ $100 เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี จากการโจมตียูเครน หลังรัสเซียเคลื่อนทหารเข้าไปในยูเครน ทำให้เกิดความกังวลว่าสงครามในยุโรปอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานทั่วโลก
รัสเซียได้เปิดตัวการบุกรุกเต็มรูปแบบในยูเครนและตั้งเป้าหมายไปยังทัพฐานทหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Dmytro Kuleba กล่าวในทวีต
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) แตะระดับสูงสุดที่ 101.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในการซื้อขายช่วงต้นของตลาดเอเชีย ซึ่งนับว่าเป็นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 และอยู่ที่ 101.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ 0423 GMT เพิ่มขึ้น 4.36 ดอลลาร์หรือ 4.5%
ในด้านราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 4.22 ดอลลาร์หรือ 4.6% สู่ 96.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นสูงถึง 96.51 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2557
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อนุญาตให้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตะวันออกเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจเป็นการเริ่มสงครามในยุโรปจากข้อเรียกร้องของรัสเซียในการยุติการขยายตัวทางตะวันออกของนาโต้
รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก ซึ่งส่วนใหญ่ขายน้ำมันดิบให้กับโรงกลั่นในยุโรป โดยจัดหาประมาณ 35% ของอุปทานทั้งหมด
“การประกาศปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียในยูเครนได้ผลักดันให้เบรนท์แตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล” วอร์เรน แพตเตอร์สัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของไอเอ็นจี กล่าว และเสริมว่าตลาดน้ำมันยังคงผันผวน ท่ามกลางการรอคอยว่าชาติตะวันตกจะดำเนินการกับรัสเซียอย่างไรต่อไป
“ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดน้ำมันตึงตัวอยู่แล้ว ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น และราคาจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงผันผวนและสูงขึ้น” เขากล่าวเสริม
เมื่อวันอังคาร ชาติตะวันตกและญี่ปุ่นลงโทษรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรครั้งใหม่ หลังรัสเซียได้สั่งทหารเข้าไปในพื้นที่แบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน และขู่ว่าจะดำเนินการต่อไป หากมอสโกเปิดฉากการรุกรานเพื่อนบ้านอย่างเต็มกำลัง จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการคว่ำบาตรการค้าพลังงาน
ญี่ปุ่นและออสเตรเลียกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าพวกเขาพร้อมที่จะแตะระดับน้ำมันสำรอง ร่วมกับประเทศสมาชิก International Energy Agency (IEA) อื่น ๆ หากอุปทานทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครน
เจฟฟรีย์ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า ปัจจัยหนึ่งที่อาจทำหน้าที่เป็นตัวหยุดราคาชั่วคราว คือข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่มีข่าวลือว่าจะมีการประกาศข้อตกลงใหม่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้
"อย่างไรก็ตาม ความกังวลวิกฤติในยูเครน ยังคงหนุนราคาจะยังคงสนับสนุนราคาน้ำมันให้ดำเนินต่อไป"
สหรัฐฯ และอิหร่านมีส่วนร่วมในการเจรจานิวเคลียร์ในกรุงเวียนนา ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวอาจนำไปสู่การยกเลิกการคว่ำบาตรการขายน้ำมันของอิหร่านและเพิ่มอุปทานทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธ อิหร่านได้เรียกร้องให้มหาอำนาจตะวันตก "ตอบตกลง" ในการเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 และกล่าวว่าผู้เจรจาระดับสูงกำลังเดินทางกลับไปยังกรุงเตหะรานเพื่อปรึกษาหารือ บ่งชี้ว่าการหารือกันครั้งใหม่อาจยังไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ รายงานคลังสินค้าน้ำมันดิบสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 6.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เทียบกับการลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลที่รายงานโดย API ในสัปดาห์ก่อนหน้า นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเติมคลังได้ประมาณ 767,000 บาร์เรล
ข้อมูล API ยังแสดงให้เห็นว่าน้ำมันเบนซินคงคลังเพิ่มขึ้น 427,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว และน้ำมันกลั่นคงคลังลดลง 985,000 บาร์เรล
รายงานสินค้าคงคลังของรัฐบาลอย่างเป็นทางการที่จะครบกำหนดในวันพฤหัสบดีนี้ คาดว่าจะแสดง ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 442,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
