เช้านี้ เงินบาทเปิด “แข็งค่า” ท่ามกลางบรรยากาศเฝ้าระวังของตลาดโลก

เช้านี้ เงินบาทเปิด “แข็งค่า” ท่ามกลางบรรยากาศเฝ้าระวังของตลาดโลก
Create at 2 years ago (Mar 31, 2022 12:33)
วันนี้ (31 มีนาคม 65) เงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าที่ 33.25 บาท/ดอลลาร์ ด้านกรุงไทยชี้ ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ประกอบกับมุมมองของ กนง. ที่ยังคงมองภาพเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง มองกรอบเงินบาทวันนี้ 32.40-32.55 บาท/ดอลลาร์
 
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย นายพูน พานิชพิบูลย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดที่ระดับ 33.25 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งมีการแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดเมื่อวานที่ 33.31 บาท/ดอลลาร์ โดยนายพูน พานิชพิบูลย์ มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.15-33.40 บาท/ดอลลาร์
 
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทมองว่า เงินบาทยังคงมีความผันผวนในกรอบกว้าง หลังจากที่มีการพลิกกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วในวันก่อนหน้าจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ประกอบกับมุมมองของ กนง. ที่มองภาพเศรษฐกิจไทยว่าจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง และมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลงไม่มากนัก
 
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของสงครามอาจจะเป็นตัวกดดันเงินบาทในฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง แต่เชื่อว่าเงินบาทคงจะไม่อ่อนค่าไปมากนัก เนื่องจากการทยอยกลับเข้ามาลงทุนของนักลงทุนชาวต่างชาติ 
 
ขณะเดียวกัน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นแรงซื้อบอนด์ระยะสั้นของนักลงทุนชาวต่างชาติสุทธิกว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าเงินบาทเริ่มมีการแข็งค่าขึ้น
 
ในช่วงนี้ที่แนวรับของเงินบาทอยู่ในช่วง 33.00-33.20 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน เราจะได้เห็นผู้นำเข้าจำนวนมากต่างรอจังหวะเงินบาทแข็งค่า เพื่อทยอยแลกเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน
 
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศตลาดในขณะนี้ยังคงอยู่ในช่วงระมัดระวังตัว จากการเฝ้าจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากล่าสุดยังคงมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการสู้รบในพื้นที่ใกล้เมืองหลวงยูเครน แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางการรัสเซียจะประกาศลดปฎิบัติการทางทหารในพื้นที่รอบเมืองหลวงยูเครนแล้วก็ตาม 
 
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การเจรจาระหว่างสองฝ่ายยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ดังนั้น ผู้เล่นจำนวนมากจึงมีความกังวลถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป และไม่มีความมั่นใจในการเจรจาครั้งนี้มากนัก
 
ขณะเดียวกัน ตลาดก็กังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้เกิดสัญญาณ Inverted Yields Curve ขึ้นในตลาดบอนด์สหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์ระยะสั้นปรับตัวขึ้น สูงกว่าบอนด์ยีลด์ระยะยาว) ซึ่งสัญญาณดังกล่าวจะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย 
 
แม้ว่าสัญญาณ Inverted Yields Curve จะกดดันทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงสู่ระดับ 2.35% กระนั้น ผู้เล่นจำเป็นต้องมีการเกาะติดสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการคาดการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีปัจจัยร่วมที่แตกต่างจากอดีต ทำให้ผลคาดการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
 
ด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่สกุลเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ปรับตัวแข็งค่าขึ้น กลับมาสู่ระดับ 1.115 ดอลลาร์ต่อยูโร และ 1.313 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากการที่ผู้เล่นบางส่วนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยุโรปอาจไม่ได้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซา หากการเจรจาสันติภาพยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ยังคงจัดอยู่ในสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้เงินดอลลาร์ไม่อ่อนค่ามากนัก 
 
โดยรวมแล้ว สถานการณ์ที่ยังคงต้องจับตามองต่อไปคือการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใด
 
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES