เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 เมษายน 2565) ได้มีรายงานการประชุมเฟด (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) ประจำวันที่ 15-16 มีนาคม ออกมาว่า คณะกรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่า จะปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ อีกทั้งคณะกรรมการเฟดหลายคนยังสนับสนุนให้ให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งหน้าอีกด้วย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้น
ซึ่งการปรับลดขนาดงบดุลของเฟด และเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อนี้ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายปริวรรตรเงินตรานิวยอร์คในวันพุธที่ 6 เมษายน 2565
อีกทั้ง เมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นถึง 0.13% ไปแตะที่ 99.5990 ซึ่งดัชนีนี้เป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงิน 6 สกุลหลัก
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 123.81 เยน จากระดับ 123.60 เยน
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9328 ฟรังก์ จากระดับ 0.9292 ฟรังก์
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2519 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2472 ดอลลาร์แคนาดา
- ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0905 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0909 ดอลลาร์สหรัฐ
- เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3066 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3081 ดอลลาร์สหรัฐ
- ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7595 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี รายงานการประชุมเฟดในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำมุมมองความคิดของคณะผู้ว่าการเฟดท่านหนึ่ง นางลาเอล เบรนาร์ด ที่ได้กล่าวไว้ว่า เฟดควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงเร่งปรับลดขนาดงบดุล โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เพราะตอนนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป