เมื่อวันพฤหัสบดี (7 เมษายน 65) ที่ผ่านมา ตลาดได้รับแรงกดดันจากข่าวสำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่พุ่งสวนจากที่คาดการณ์ ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวานนี้
โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 65 ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 96.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน 65 ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 100.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ำมัน 60 ล้านบาร์เรลออกจากคลังน้ำมันสำรองของประเทศสมาชิกทั้ง 31 ประเทศ เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นการระบายน้ำมันครั้งที่ 2 ของปี ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 3
อีกทั้ง ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 1.85 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในช่วงนี้ ได้แก่ การประกาศล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ของจีน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการการคว่ำบาตรรัสเซียของนานาประเทศ
ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องมีความระมัดระวังในการลงทุนด้านน้ำมันเป็นพิเศษ เนื่องจากความผันผวนของตลาดในช่วงนี้ ประกอบกับประเด็นอ่อนไหวต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
Updated
2 years ago
(Apr 08, 2022 10:48)