เมื่อวันจันทร์ (11 เมษายน 2565) ที่ผ่านมา นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนัก ประกอบกับภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่แน่นอน ส่งผลให้สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวานนี้
จากความกังวลของตลาดในครั้งนี้ ส่งผลให้สัญญาทองคำ โลหะเงิน และทองคำขาวเพิ่มขึ้น ในขณะที่สัญญาแพลเลเดียมลดลง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- สัญญาทองคำ ตลาด COMEX (Commodity Exchange) รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,948.2 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงิน รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 16.4 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 24.987 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาทองคำขาว รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 977.8 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาแพลเลเดียม รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,416.80 ดอลลาร์/ออนซ์
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีท่าทีที่จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากต่างเกิดความวิตกกังวล ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักลงทุนเร่งเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ด้านตลาดการเงินมีการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน โดยอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ นับว่าสูงกว่า 2.4% ซึ่งกรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้าจับตามองตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะถูกกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ (12 เมษายน 2565) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพรุ่งนี้ (13 เมษายน 2565) ตามลำดับ โดยตัวเลขดังกล่าวจะเป็นมาตรวัดในการชี้ให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค และผู้ผลิต
ด้านนักวิเคราะห์มีการคาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนมีนาคม จะพุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2524 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุน เป็นผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
อีกปัจจัยที่ส่งผลให้นักลงทุนต่างเกิดความวิตกกังวล คือ สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ (9 เมษายน 2565) ที่ผ่านมา วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ทำการแต่งตั้งผู้บัญชาการคนใหม่บัญชาการสงครามในยูเครน
ประกอบกับภาพถ่ายดาวเทียมที่ถูกเปิดเผยโดยบริษัท Maxar Technologies เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงภาพขบวนรถทหารกองทัพรัสเซียยาวเหยียดกว่า 12 กิโลเมตร กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกของยูเครน นี่จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า รัสเซียพร้อมที่จะทำการสู้รบครั้งใหม่ สถานการณ์สงครามในครั้งนี้จึงยังคงบานปลายต่อไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ดังนั้น นักลงทุนจึงควรจับตามองสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงนี้มีปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนค่อนข้างมาก
