เมื่อวานนี้ (18 เมษายน 65) หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียประกาศระงับการผลิตน้ำมัน เนื่องจากการประท้วงของคนงาน ส่งผลให้เกิดภาวะความวิตกกังวล และความตึงเครียดในตลาดโลก ทำให้สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 108 ดอลลาร์
โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม พุ่งขึ้นถึง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.2% และปิดที่ 108.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) รอบส่งมอบเดือนมิถุนายน พุ่งขึ้นถึง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ก่อนจะปิดที่ 113.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
การพุ่งขึ้นของสัญญาน้ำมันดิบในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (NOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐบาลลิเบีย ได้ประกาศระงับการกลั่นน้ำมันจากบ่อน้ำมัน El Feel เนื่องจากการประท้วงของคนงานที่ต้องการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี Abdulhamid al-Dbeibah ในตริโปลีลา ออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ NOC ยังได้ประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) ด้านการส่งมอบน้ำมันดิบจากแหล่ง Al-Sharara และท่าส่งออกน้ำมัน Zueitina ด้วยเช่นกัน
การหยุดดำเนินการในบ่อน้ำมัน El Feel และแหล่งน้ำมันอีก 2 แห่ง จะทำให้การผลิตน้ำมันของลิเบียลดลง เฉลี่ย 1.21 ล้านบาร์เรล/วัน และทำให้การผลิตน้ำมันของประเทศแอฟริกาเหนือลดลง 70,000 บาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม ภาวะสุดวิสัยเป็นสิ่งที่ถูกระบุในสัญญา เพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น
จากรายงานข่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ตลาดโลกเผชิญกับภาวะตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงไม่สงบ ทำให้การผลิตน้ำมันของรัสเซียทรุดตัวลง ประกอบกับมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่ทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่น ๆ ได้ ดังนั้น เมื่อเกิดข่าวระงับการผลิตน้ำมันจากลิเบียเข้าไป จึงยิ่งเป็นการซ้ำเติมอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ด้านนักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นต่อไป เนื่องจากได้แรงหนุนจากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ของจีน และคำเตือนของ Mohammed Sanusi Barkindo เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง และไม่มีทางที่จะทดแทนปริมาณน้ำมันที่ขาดหายไปได้
ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ ราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ จึงมีการดีดตัวพุ่งขึ้นสูง และคาดว่า จะยังคงพุ่งขึ้นสูงต่อไปในอนาคต เนื่องจากเหตุปัจจัยที่ยังคงไร้หนทางแก้ไข ดังนั้น นักลงทุนจึงควรจับตามองสถานการณ์ภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจจะมีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาได้
Updated
2 years ago
(Apr 19, 2022 11:21)