ทองคำทรงตัวบริเวณ $1,840 เหตุดอลลาร์แข็งค่า ขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

ทองคำทรงตัวบริเวณ $1,840 เหตุดอลลาร์แข็งค่า ขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
Create at 2 years ago (May 11, 2022 12:37)
ทองคำปิดตลาดร่วงกว่า 1,500 จุด และร่วงต่อเนื่องในเช้านี้ แตะ Low ที่ $1,831 เหตุดอลลาร์แข็งค่า ขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยปัจจุบันราคาทองคำได้ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย และทรงตัวอยู่บริเวณ $1,840 ณ เวลาที่เขียน
 
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ 103.9200 และยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลข CPI ที่อาจบ่งชี้ว่าเฟดจะดำเนินการอย่างก้าวร้าวเพียงใด
 
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 3.33 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 99.76 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลว่าการที่จีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
 
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยผลสำรวจคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ ประจำเดือน เม.ย. พบว่า ภาคครัวเรือนสหรัฐฯ คาดว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
 
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ Treasury Inflation Protected Securities (TIPS) อายุ 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง พลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้งในวันจันทร์ แตะ 0.004% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. 
 
สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อม ทรงตัวที่ระดับ 93.2 ในเดือน เม.ย. ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 92.9
 
นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดคลีฟแลนด์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า อัตราเงินเฟ้อจะต้องแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างชัดเจน ก่อนที่เฟดจะพิจารณาพักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว แต่ความเสี่ยงในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าเฟดต้องดำเนินการอย่างหนักเพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม
 
นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง "ทำ" ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงเกินไป และตลาดแรงงานที่มีงานว่างเกือบ 2 ตำแหน่งสำหรับผู้หางานทุกคน
 
กองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -7.25 ตัน สู่ระดับ 1,068.65 ตัน ทำให้ปี 2022 กองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม 92.99 ตัน
 
นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 bps ในการประชุม 2 ครั้งถัดไปในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมแต่ละครั้ง โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการที่สมเหตุสมผล
 
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยต่าง ๆ จะกดดันราคาทองคำ แต่ในด้านบอนด์ยีลด์ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.952% ขณะที่บอนด์ยีลด์ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.074% ก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้ ประกอบกับดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 3 ปี เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง สกัดช่วงลบทองคำ
 
รวมทั้งปัจจัยด้านดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 3 ปี เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง โดย Bid Coverage Ratio ที่เป็นมาตรวัดความต้องการครั้งนี้อยู่ที่ 2.59 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2020
 
ข้อมูลของ Coinmarketcap.com พบว่า มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดดิ่งลงสู่ระดับ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ จากระดับ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening) ซึ่งจะฉุดสภาพคล่องในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
 
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ความรุนแรงของสงคราม และทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนให้ดี ขอให้โชคดีครับ
 
Source: CNBC, SPDR, Kitco, Investing, Infoquest, Reuters, Bloomberg, Fxstreet
 
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ทองคำปิดตลาดร่วงกว่า 1,500 จุด และร่วงต่อเนื่องในเช้านี้ แตะ Low ที่ $1,831 ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย มาที่บริเวณ $1,840 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มภาพรวมใหญ่ ทองคำยังคงวิ่งในแนวโน้มขาลง (Downtrend) หากพิจารณาจากการที่กราฟยังวิ่งอยู่ใต้เส้นเทรนด์ไลน์สีชมพู รวมถึงการที่กราฟวิ่งต่ำกว่าเส้น EMA ทุกค่าเฉลี่ย ซึ่งแน่นอนว่าแนวโน้มระยะสั้นฝั่ง Sell มีความได้เปรียบสูงมาก อย่างไรก็ดี กราฟมีโอกาสกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญ รวมทั้ง Re-Test แนวของเส้นเทรนไลน์สีชมพูอีกครั้ง ที่โซน $1,859-$1,886 (เนื่องจากปริมาณแรง Buy the Dip ที่ยังคงมีอยู่ในตลาด) ซึ่งโซนนี้สามารถเข้า Sell ได้ โดยหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน และเส้นเทรนด์ไลน์ดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสที่กราฟจะปรับตัวลงต่อ และร่วงลงมาทดสอบแนวรับที่ $1,832 / $1,818 / $1,800 ตามลำดับ (Demand Zone นี้ สามารถ Buy ได้) ในทางตรงกันข้าม หากสามารถยืนเหนือได้ ก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $1,859 / $1,872 / $1,886 ตามลำดับ (Supply Zone นี้ สามารถ Sell ได้) อย่าลืมบริหารความเสี่ยงกันนะครับ 
แนวต้านสำคัญ: 1,859 / 1,872 / 1,886
แนวรับสำคัญ: 1,832 / 1,818 / 1,800
 
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES