ขา Buy เฮ !! ทองทะยานกว่า 2,100 จุด จาก Low $1,828 สู่ High $1,849 เหตุนักลงทุนวิตก เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ฉุดเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย กดดันตลาดหุ้น กระตุ้นแรงซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์ ขณะที่บอนด์ยีลด์พุ่ง ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา "ดีเกินคาด" สกัดช่วงบวกทอง อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคาทองคำได้ปรับตัวลงมาที่ $1,845 ณ เวลาที่เขียน
ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 0.73% สู่ระดับ 102.4980 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้เดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
Bond Yield 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 2.9533% โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ผู้มีสิทธิโหวตนโยบายการเงินในปีนี้กล่าว ในวันพุธว่า "ยังเร็วเกินไป" ที่จะบอกว่าเงินเฟ้อแตะจุดสูงสุดแล้ว พร้อมเตือนว่าช่วงที่เงินเฟ้อสูงในอดีต แรงกดดันด้านราคาลดลงเป็นเวลาหลายเดือน แต่ก็ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสองครั้งข้างหน้า
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือน พ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีร่วงลงสู่ระดับ 54.5 จากระดับ 55.4 ในเดือน เม.ย.
สัญญา Eurodollar ฟิวเจอร์สสะท้อนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ประมาณ 3.4% ภายในเดือนมิถุนายนปี 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.2% ในวันอังคาร
ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 455,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 11.4 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้ว่าตัวเลขค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูง ขณะที่บริษัทต่าง ๆ พยายามปรับขึ้นค่าแรงเพื่อดึงดูดพนักงาน
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยต่าง ๆ จะกดดันราคาทองคำร่วงลง Low $1,828 แต่ในด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน มี.ค. หนุนทองทะยานกว่า 2,000 จุด
รวมทั้งปัจจัยจาก เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.0 ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 57.5 จากระดับ 59.2 ในเดือน เม.ย.
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 176.89 จุด หรือ -0.54%, ดัชนี S&P500 ปิด -0.75% และดัชนี Nasdaq ปิด -0.72% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด และสถานการณ์ความรุนแรงของสงคราม รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนให้ดี ขอให้โชคดีครับ
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ทองทะยานกว่า 2,100 จุด จาก Low $1,828 สู่ High $1,849 ก่อนจะปรับตัวลงมาที่ $1,845 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มภาพรวมใหญ่ สามารถมองว่าทองคำยังวิ่งในแนวโน้มขาขึ้นได้ (Uptrend) หากพิจารณาจากการที่กราฟไม่สามารถร่วงทะลุแนวต้านใหญ่โซน $1,828 ได้ รวมทั้งยังวิ่งในกรอบเส้นเทรนด์ไลน์ แต่ในระยะสั้นให้เฝ้าระวังฝั่งทั้ง 2 ฝั่ง เพราะกราฟมีลักษักษณะเป็น Sideway อย่างไรก็ดี กราฟมีโอกาสกลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่โซน $1,830-$1,810 ซึ่งโซนนี้สามารถเข้า Buy ได้ โดยหากไม่สามารถร่วงลงทะลุแนวรับสำคัญดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสที่กราฟจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $1,851 / $1,864 / $1,877 ตามลำดับ (โซนนี้ สามารถ Sell ได้) ในทางตรงกันข้าม หากสามารถร่วงทะลุโซนแนวต้านสำคัญดังกล่าวไปได้ ก็มีโอกาสดิ่งลงไปทดสอบแนวรับที่โซน $1,800 ซึ่งถ้ากราฟร่วงลงมาทะลุ $1,807 ให้ยอมแพ้ (SL) เพื่อรอจังหวะเข้าใหม่ อย่าลืมบริหารความเสี่ยงกันนะครับ
แนวต้านสำคัญ: 1,851 / 1,864 / 1,877
แนวรับสำคัญ: 1,832 / 1,819 / 1,807
