ทองคำ ร่วงต่อ กว่า 1,000 จุด!!! จาก High $1,829 สู่ Low $1,818 เหตุจากดอลลาร์แข็ง ขานรับเฟดย้ำชัด เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย หวังคุมเงินเฟ้อ!!! รวมถึงปัจจัยจากการร่วงของยูโร หลังถ้อยแถลงประธาน ECB นโยบายการเงิน ไร้ความคืบหน้า!!! อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาทองคำ ได้ปรับตัวขึ้นมาที่ $1,820 ณ เวลาที่เขียน
ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 0.54% แตะที่ระดับ 104.5050 โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มที่เฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย และการร่วงลงของยูโร หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า (กดดันทองคำ)
นางแมรี เดลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซานฟรานซิสโก กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ LinkedIn ว่า หลายคนกังวลว่า เฟดอาจแข็งกร้าวเกินไป และอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย แต่ตัวเธอเองก็กังวลว่า หากปล่อยเงินเฟ้อไว้โดยไม่มีการควบคุม จะเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ และเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจได้ (กดดันทองคำ)
นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราดอกเบี้ย "จำเป็นอย่างแน่นอน" ที่จะต้องอยู่ระหว่าง 3% ถึง 3.5% ภายในสิ้นปีนี้ และเขาไม่ได้คาดการณ์ว่า สหรัฐจะถดถอย ในแง่ของการประชุมครั้งต่อไป คาดว่า จะเป็นการถกเถียงกันระหว่างการขึ้นดอกเบี้ย 50 bps หรือ 75 bps (กดดันทองคำ)
เงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) นางคริสติน ลาการ์ด ไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สดใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลาง ขณะที่ตลาดเงินกำลัง Price In การขึ้นดอกเบี้ยสะสม 238 bps ภายในกลางปี 2023 “ลดลง” จากประมาณ 280 bps ที่คาดการณ์ไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน (กดดันทองคำ)
จีนประกาศลดระยะเวลากักตัว สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในสถานที่ที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 14 วัน ส่วนการกักตัวที่บ้านพักหลังจากนั้น ลดลงเหลือเพียง 3 วัน จากเดิม 7 วัน (หนุนหยวน, หนุนเงินบาท แต่กดดันทองคำภายในประเทศ)
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ -2.03 ตัน สู่ระดับ 1,054.37 ตัน ทำให้ปี 2022 กองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม 78.71 ตัน (กดดันทองคำ)
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยต่าง ๆ จะกดดันราคา ทองคำ ดิ่งร่วงลง แต่ปัจจัยด้านผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ทรุดตัวลงสู่ระดับ 98.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2013 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ที่ระดับ 100.0 จากระดับ 103.2 ในเดือน พ.ค. (หนุนทองคำ)
ผลสำรวจของ S&P CoreLogic Case Shiller บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.2% หลังจากการเพิ่มขึ้น 21.1% ในเดือน มี.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ (หนุนทองคำ)
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต ลดลงสู่ระดับ -19 ในเดือน มิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ที่ระดับ -4 จากระดับ -9 ในเดือน พ.ค. (หนุนทองคำ)
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงความเชื่อมั่นว่า ยูโรโซนจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย และ ECB พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่แรงขึ้น หากมีความจำเป็น เพื่อควบคุมการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ (หนุนทองคำ)
ดัชนี Dow Jones ปิดร่วงลง 491.27 จุด หรือ -1.56%, ดัชนี S&P500 ปิด -2.01% และดัชนี Nasdaq ปิด -2.98% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเป็นวงกว้าง หลังมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย (หนุนทองคำ)
ส่วนตุรกี ยุติการคัดค้านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ของสวีเดนและฟินแลนด์ ในการประชุมสุดยอดนาโต้ในวันอังคาร ตามรายงานของเอพี (หนุนทองคำ)
อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรติดตามทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด และสถานการณ์ความรุนแรงของสงคราม รวมถึง ควรมีการบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนให้ดี ขอให้โชคดีครับ
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคจากนักวิเคราะห์ FXTODAY
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ทองคำ ร่วงต่อ กว่า 1,000 จุด!!! จาก High $1,829 สู่ Low $1,818 วานนี้ ก่อนจะปรับตัวขึ้นมาที่ $1,820 ณ เวลาที่เขียน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มภาพรวมใหญ่ สามารถมองได้ว่า ทองคำ กำลังวิ่งในแนวโน้มขาลง (Downtrend) หากพิจารณาจากการที่กราฟยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญ โซน $1,832 รวมทั้งการที่กราฟวิ่งต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA100 และ EMA200 แต่ทั้งนี้ ในระยะสั้น ฝั่ง Buyer อาจมีความได้เปรียบ หลังกราฟยังไม่สามารถทะลุร่วงผ่านแนวต้านสำคัญที่ $1,818 ไปได้ (เกิดการ Rejection ของราคาในโซน $1,818)
อย่างไรก็ดี กราฟยังคงมีโอกาสกลับลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่โซน $1,812-$1,815 ซึ่งโซนนี้สามารถเข้า Buy ได้ โดยหากไม่สามารถร่วงลงทะลุแนวรับสำคัญดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสที่กราฟจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $1,827 / $1,832 / $1,839 อีกครั้ง ตามลำดับ (โซนนี้สามารถ Sell ได้) ในทางตรงกันข้าม หากสามารถร่วงทะลุโซนแนวรับสำคัญดังกล่าวไปได้ ก็มีโอกาสดิ่งลงไปทดสอบแนวรับที่โซน $1,811 ซึ่งถ้าหากกราฟร่วงลงมาทะลุโซนสีแดง ให้ยอมแพ้ก่อน (SL) แล้วรอเข้าออเดอร์ใหม่อีกครั้งในโซนนัยสำคัญ (Demand Zone) อย่าลืมบริหารความเสี่ยงกันนะครับ
แนวต้านสำคัญ: 1,827 / 1,832 / 1,839
แนวรับสำคัญ: 1,818 / 1,813 / 1,807
