หมีตบคว่ำ ทองคำ ดิ่งกว่า 2,400 จุด จาก High $1,789 เทส Low $1,765 ในวันศุกร์ หลัง NFP พุ่งเกินคาด‼️ หนุนดัชนีดอลลาร์แข็ง กระตุ้นคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ในเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาทองคำ ได้ทรงตัวเหนือแนวต้านอยู่ที่ $1,773 ณ เวลาที่เขียน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ค. โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่า จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง (กดดันทองคำ)
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% (กดดันทองคำ)
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ดีดตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายปี (กดดันทองคำ)
วันศุกร์ ที่ 5 ส.ค. ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.85% แตะที่ระดับ 106.6190 ขานรับการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (กดดันทองคำ)
Bond Yield 10 ปี ดีดตัวขึ้นทะลุระดับ 2.8% ในวันศุกร์ ที่ 5 ส.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (กดดันทองคำ)
มิเชล โบว์แมน (Michelle Bowman) หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยในวันเสาร์ (6 ส.ค.) ว่า เฟดควรพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ในระดับที่เฟดตั้งเป้าไว้ที่ 2% (กดดันทองคำ)
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 71.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และเพิ่มขึ้นจากโอกาส 45.5% ในช่วงก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ออกมาสูงเกินคาด (กดดันทองคำ)
กองทุน SPDR ถือครองทองคำ -1.16 ตัน สู่ระดับ 999.16 ตัน ทำให้ปี 2022 กองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม 23.50 ตัน (กดดันทองคำ)
อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยต่าง ๆ จะกดดันราคาทองคำดิ่งฮวบเทส Low $1,765 แต่ในด้านการคำนวณของรอยเตอร์จากข้อมูลของ CFTC พบว่า มูลค่าของสถานะซื้อสุทธิในดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับ 1.727 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงวันที่ 2 ส.ค. ลดลงจาก 1.846 หมื่นล้านดอลลาร์ ในสัปดาห์ก่อน (หนุนทองคำ)
รอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลจีนประกาศระงับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในหลายด้านเพื่อตอบโต้การที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึง การเจรจาของจีนเรื่องสภาพอากาศกับสหรัฐฯ ตลอดจนความร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรมระหว่างประเทศ และการส่งตัวผู้อพยพอย่างผิดกฎหมายกลับประเทศ (หนุนทองคำ)
นายจอห์น เคอร์รี (John Forbes Kerry) ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเปิดเผยในวันศุกร์ (5 ส.ค.) ว่า การตัดสินใจของจีนที่จะระงับการเจรจาทวิภาคีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในสหรัฐฯ นั้น ไม่ใช่เป็นการลงโทษสหรัฐฯ แต่เป็นการลงโทษทั้งโลก (หนุนทองคำ)
เจ้าหน้าที่ไต้หวันกล่าวว่า ทางการจีนส่งเครื่องบินรบและเรือของกองทัพข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันในวันศุกร์ ซึ่งรัฐบาลไทเปเตือนจีนแผ่นดินใหญ่ว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังทำให้ “สถานภาพปัจจุบัน” หรือ Status Quo ในบริเวณดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลง (หนุนทองคำ)
อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรติดตามทิศทางนโยบายทางการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด และสถานการณ์ความตึงเครียดของจีน-สหรัฐฯ รวมถึง ควรมีการบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนให้ดี ขอให้โชคดีครับ
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4/8/22 จากนักวิเคราะห์ FXTODAY
XAU/USD tf. H1
จากที่ได้วิเคราะห์ไปเมื่อวันพฤหัสบดี (4/8/22) กราฟได้วิ่งตามเทคนิคที่ได้วิเคราะห์ไว้ โดยกราฟได้ปรับตัวขึ้นไปทดสอบกรอบแนวต้านที่ $1,794 (Supply Zone) หลังจากไม่สามารถผ่านโซนนี้ไปได้ กราฟก็ได้ดิ่งฮวบ ทิ้งตัวกว่า 2,900 จุด เทส Low ที่ $1,764 ซึ่งเป็นโซนนัยสำคัญตรงกรอบเส้นเทรนด์ไลน์สีฟ้า และกราฟไม่สามารถทะลุโซนนี้ไปได้ จึงได้ปรับตัวขึ้น และในปัจจุบัน ทองคำได้ทรงตัวเหนือแนวต้านอยู่ที่ $1,773 ณ เวลาที่เขียน
การวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค วันจันทร์ที่ 8/8/22 จากนักวิเคราะห์ FXTODAY
XAU/USD tf. H1
ในกรอบเวลา 1 ชั่วโมง ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาที่ $1,773 ณ เวลาที่เขียน โดยแนวโน้มภาพรวมใหญ่ สามารถมองได้ว่า ทองคำ กำลังวิ่งในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หลังไม่สามารถทะลุแนวรับสำคัญ โซน $1,765 ได้ และกราฟได้ยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ $1,765 ไปได้ ซึ่งโดยรวมกราฟยังคงวิ่งอยู่ในกรอบเส้นเทรนด์ไลน์สีฟ้า บ่งบอกถึงปริมาณแรง Buy ที่สูงในตลาด
แต่หากมองในภาพรวมระยะสั้น ฝั่ง Seller อาจมีความได้เปรียบ หากพิจารณาจากการที่กราฟวิ่งในกรอบเส้นเทรนด์ไลน์สีเหลืองในแนวโน้มขาลง โดยกราฟยังคงมีโอกาสลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่โซน $1,765-$1,754 เพื่อ Test แนวรับสำคัญ และเพื่อสร้างโมเมนตัมในการขึ้นต่อ ซึ่งหากกราฟไม่สามารถดิ่งลงทะลุแนวรับสำคัญดังกล่าวไปได้ ก็มีโอกาสที่กราฟจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $1,779 / $1,788 / $1,794 ตามลำดับ (โซนนี้สามารถ Sell ได้) ในทางตรงกันข้าม หากสามารถดิ่งลงทะลุโซนแนวรับสำคัญดังกล่าวไปได้ ก็มีโอกาสลงมาทดสอบแนวรับที่โซน $1,748-$1,740 ซึ่งถ้าหากกราฟดิ่งลงเข้าสู่โซนกรอบสีแดง ให้เรายอมแพ้ก่อน (Stop Loss) แล้วรอเข้าออเดอร์ Buy ใหม่อีกครั้งในโซนที่มีนัยสำคัญ (Demand Zone) อย่าลืมบริหารความเสี่ยงกันนะครับ
แนวต้านสำคัญ: 1,779 / 1,788 / 1,794
แนวรับสำคัญ: 1,765 / 1,754 / 1,748
____________________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Updated
2 years ago
(Aug 08, 2022 12:06)
