ข่าวราคาทองคำวันนี้ ทองคำปิดหลังจากทะยานขึ้นกว่า $30.7 หลังได้รับอานิสงค์จากการดิ่งตัวของ Bond Yield ทั่วโลก ขณะนี้ทางธนาคารกลางอังกฤษได้มีการประกาศซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวคืน เพื่อพยุงราคาและรักษาตลาดไว้ โดยค่าเงินปอนด์ก็ได้รับอานิสงค์ฟื้นตัวในครั้งนี้ด้วย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัว หลังรายงานดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ กระตุ้นแรงหนุนทองคำหลัง Break out ผ่าน Trend line พุ่งขึ้นเฉียด $50 ในรอบ 2 ปีครึ่งที่บริเวณ $1,614.78 และแตะระดับสูงสุดที่บริเวณ $1,662.61 ด้านกองทุน SPDR ถือทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
โดยการร่วงลงของราคาทองคำ มีปัจจัยกดดัน ดังต่อไปนี้
1. ชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งชิคาโก กล่าวเมื่อวันพุธว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นของสหรัฐฯ ไปถึงระดับที่มีความจำเป็น (4.5-4.75%) ภายในมีนาคมปีหน้า
2. สำนักข่าว Sky News รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง และจะไม่มีการยกเลิกนโยบายที่เขาได้ประกาศก่อนหน้านี้ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนในตลาดการเงิน
3. ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 548.75 จุด หรือ +1.88%, ดัชนี S&P500 ปิด +1.97% และดัชนี Nasdaq ปิด +2.05%
โดยได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวนเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีปัจจัยหนุน ดังต่อไปนี้
1. เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายที่ตลาดผันผวนหนักเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (28 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศมาตรการสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน ด้วยการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษโดยไม่จำกัดจำนวน
2. ดัชนีดอลลาร์ ปิดร่วงลง 1.19% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ที่ 114.78 โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ และการเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายที่แย่เกินคาด
3. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.0% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 88.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 และปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
4. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แถลงว่า ทางธนาคารจะทำการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษจำนวนมากเท่าที่มีความจำเป็นตั้งแต่ขณะนี้จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน
5. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 30 ปีร่วงลงกว่า 100 bps สู่ระดับ 3.934% หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีที่ 5.092% ในช่วงการซื้อขายก่อนหน้า และเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1992 ที่ Refinitiv เริ่มเก็บข้อมูล ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปีปรับตัวลง 50 bps สู่ระดับ 4.01% หลัง BoE ออกแถลงการณ์ซื้อพันธบัตรระยะยาวเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดการเงิน
6. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลงมากกว่า 26 bps สู่ระดับ 3.70% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2009 หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีที่ 4.004% ในระหว่างวันในช่วงก่อนที่ BoE ออกแถลงการณ์ซื้อพันธบัตรระยะยาวไม่อั้นรักษาเสถียรภาพตลาดการเงิน
7. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของเยอรมนี ปรับตัวลดลง 10 bps หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 11 ปีที่ 2.35% ในช่วงการซื้อขายก่อนหน้า ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีปรับตัวลดลง 13 bps มาอยู่ที่ 4.6% หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2013 ที่ 4.927% หลัง BoE ออกแถลงการณ์ซื้อพันธบัตรระยะยาวเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดการเงิน
8. สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า ชาวอเมริกันควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังรัสเซียในขณะนี้ ส่วนชาวอเมริกันที่กำลังพำนัก หรือเดินทางอยู่ในรัสเซียควรรีบออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
9. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (28 กันยายน 2022) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่า ความต้องการใช้น้ำมันยังคงฟื้นตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเอียน (Ian) ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ
10. สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ มหาเศรษฐีนักลงทุน กล่าวว่า เขาเชื่อว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟดอาจผลักดันให้สหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่เกินคาดในปีหน้า
ท่ามกลางปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งคาดว่า ทองคำจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี แต่อย่างไรตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ และข่าวสารต่อไปอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน เนื่องจากภาวะสงครามและความขัดแย้งก็ยังเป็นที่น่ากังวล
____________________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
Updated
2 years ago
(Sep 29, 2022 12:30)