ข่าวราคาทองคำวันนี้ ภาคเช้าทองคำพุ่งทะยาน หลังดอลลาร์อ่อนตัวหนัก จากการเปิดเผยตัวเลข PMI ภาคการผลิตของ ISM ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก ในทางกลับกัน ค่าเงินปอนด์พุ่งแตะระดับสูงสุดที่บริเวณ 1.13435 หลังธนาคารกลางแห่งอังกฤษยกเลิกแผนลดภาษี ส่งผลให้ Bond Yield ร่วงทั่วโลก โลหะเงินก็ได้รับอานิสงค์จากการอ่อนตัวของดอลลาร์พุ่งขึ้นกว่า 8% แตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ทองคำมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น หลังทะลุแนวต้านเดิม ส่งผลให้ทองคำได้รับแรงหนุนในการพุ่งขึ้นเทส High รอบ 3 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,701.37 ทางด้านกองทุน SPDR มีการถือทองเพิ่มขึ้น +3.19 ตัน
โดยการร่วงลงของราคาทองคำ มีปัจจัยกดดัน ดังต่อไปนี้
1. ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 765.38 จุด หรือ +2.66%, ดัชนี S&P500 ปิด +2.59% และดัชนี Nasdaq ปิด +2.27% เนื่องจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
2. เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.0 ในเดือนกันยายนจากระดับ 51.5 ในเดือนสิงหาคม และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 51.8
3. จอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งนิวยอร์ก กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า แม้จะเริ่มมีสัญญาณภาวะเงินเฟ้อลดลง แต่แรงกดดันด้านราคายังคงสูงเกินไป ซึ่งหมายความว่าเฟดจะต้องเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ได้
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีปัจจัยหนุน ดังต่อไปนี้
1. ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.38% สู่ระดับ 111.7460 หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่เกินคาด
2. โลหะเงินทะยานขึ้น 8.8% สู่ระดับ 20.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม
3. กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +3.19 ตัน สู่ระดับ 942.89 ตัน ทำให้ปี 2022 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -32.77 ตัน
4. ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 50.9 ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.3
5. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนสิงหาคม โดยดิ่งลง 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.3%
6. ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ที่ 1.13435 ดอลลาร์ หลังรัฐบาลอังกฤษยกเลิกการปรับลดภาษีในนโยบายการคลังฉบับใหม่
7. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 3.885% หลัง ลิซ ทรัสส์ นายกอังกฤษถูกกดดันให้ยกเลิกนโยบายลดภาษี
8. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 3.5694% หลังจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน ร่วงลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง รวมไปถึงการที่นายกอังกฤษยกเลิกแผนการลดภาษีหนุน Bond Yield เพิ่ม
9. องค์การสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางของชาติอื่น หลีกเลี่ยงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
10. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันจันทร์ (3 ตุลาคม) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในการประชุมวันพุธนี้
11. สภาดูมา ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ให้การอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ต่อการผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครน ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย แม้ว่ายังคงมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวชายแดนของภูมิภาคดังกล่าว
____________________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
Updated
2 years ago
(Oct 04, 2022 12:01)
