ข่าวราคาทองคำวันนี้ ภาคเช้าราคาทองคำปิดพุ่ง $26.10 ท่ามกลางการอ่อนตัวของของดอลลาร์สหรัฐที่ถูกกดดันอย่างหนัก หลังจากการรายงานตัวเลข Job Openings ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในเดือนพฤศจิกายน อีกด้านหนึ่ง การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐยังส่งผลให้ Bond Yield ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การประกาศของธนาคารกลางแห่งอังกฤษในการชะลอตัวในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็เป็นแรงหนุนในการผลักดันราคาทองคำให้พุ่งสูงเช่นกัน โดยทองคำจะเทส High ในรอบ 3 สัปดาห์ครั้งใหม่ที่บริเวณ 1,729.14 ด้านกองทุน SPDR ถือทองคำเพิ่มขึ้น +1.74 ตัน
โดยการร่วงลงของราคาทองคำ มีปัจจัยกดดัน ดังต่อไปนี้
1. ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 825.43 จุด หรือ +2.80%, ดัชนี S&P500 ปิด +3.06% และดัชนี Nasdaq ปิด +3.34% เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
2. แมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง จนกว่าเฟดจะมั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
3. ฟิลิป เจฟเฟอร์สัน หนึ่งในผู้ว่าการเฟดคนใหม่ กล่าวเมื่อวันอังคารในถ้อยแถลงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งว่า “การทำให้ราคากลับมามีเสถียรภาพอาจใช้เวลาสักระยะ และมีแนวโน้มว่า จะนำไปสู่การเติบโตที่ต่ำกว่าแนวโน้ม” พร้อมส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อสู้กับแรงกดดันด้านราคา
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ มีปัจจัยหนุน ดังต่อไปนี้
1. ดัชนีดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.31% ซึ่งเป็นการลดลงภายในวันเดียวที่มากที่สุด นับตั้งแต่ COVID-19 เริ่มระบาดในเดือนมีนาคม 2020 และลดลงมากกว่า 4% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอบั่นทอนการคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ในเดือนพฤศจิกายนนี้
2. FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนมองเห็นโอกาส 58.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ซึ่งลดลงจากโอกาส 68.1% และเพิ่มโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 41.5%
3. สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 1.1 ล้านตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 11.1 ล้านตำแหน่ง
4. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 3.5618% เมื่อคืนนี้ โดยปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันอังคาร หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และข้อมูลของสหรัฐฯ ระบุว่าตำแหน่งงานในเดือนสิงหาคมลดลงบั่นทอนการคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ในเดือนพฤศจิกายนนี้
5. ธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ของตลาด ส่วนใหญ่ที่คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น 50 bps
6. KPMG บริษัทสอบบัญชีรายใหญ่ของโลก เปิดเผยผลสำรวจผู้นำบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ จำนวน 400 ราย พบว่า ผู้ถูกสำรวจ 91% คาดว่า สหรัฐฯ จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และมีเพียง 34% ที่คาดว่า ภาวะถดถอยดังกล่าวจะมีความรุนแรงไม่มากและสิ้นสุดในระยะเวลาอันสั้น ขณะที่ผู้ถูกสำรวจมากกว่า 50% กำลังพิจารณาที่จะปลดพนักงาน เพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอยดังกล่าว
7. ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีแนวโน้มที่จะลงนามในกฎหมายผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียในวันนี้
8. วุฒิสภารัสเซียลงมติเป็นเอกฉันท์ในการให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครน ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย
9. สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (4 ตุลาคม) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในการประชุมวันนี้
10. พลเอกเบน ฮอดจ์ อดีตผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในภาคพื้นยุโรป กล่าวว่า ภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
11. กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +1.74 ตัน สู่ระดับ 944.63 ตัน ทำให้ปี 2022 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -31.03 ตัน
ท่ามกลางปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งคาดว่า ทองคำจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี แต่อย่างไรตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ และข่าวสารต่อไปอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน เนื่องจากภาวะสงคราม และความขัดแย้งก็ยังเป็นที่น่ากังวล
____________________________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
Updated
2 years ago
(Oct 05, 2022 12:15)
